พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า(บทเต็ม) ของหลวงพ่อกวย
ที่ท่านใช้ ประจำ ในการปลุกเสก วัตถุมงคลของท่าน
ตั้งนะโม ๓ จบ
อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ
อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ
ตะโจ พระพุทธเจ้าจงมาเป็นหนัง มังสัง
พระธรรมเจ้าจงมาเป็นเนื้อ อัฏฐิ
พระสงฆ์เจ้าจงมาเป็นกระดูก ตรีเพชชะคงคง อิสะวาสุ
สุสะวาอิ พุทธะ ปิติอิ
พระคาถาอิติปิโสมงกุฎพระพุทธเจ้านี้ มีอานุภาพทางคุ้มกันสรรพอันตรายแลสาตราอาวุธทั้งปวง
กรรมพระคาถานี้ เอาหัวแม่มือทั้งสองข้าง ลากจากจุดศูนย์กลางตรงหน้าผาก เวียนไปรอบศีรษะ ไปบรรจบข้างหลัง แล้วลากกลับมาบรรจบที่หน้าผาก ทำดังกล่าวนี้ ให้บริกรรมพระคาถานี้ จนกว่าจะว่าพระคาถาจบ ทำให้ครบ ๗ คาบ สามารถปกป้อง คุ้มครองภัยชะมังดีนักแล
ถ้าจะเข้ารณรงค์สงคราม ท่านให้เอาใบตาลมาจารพระคาถานี้ เฉพาะบทแรก คือ อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะ ตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ
ทำเป็นมงคล เสกด้วยพระคาถาที่ลงนั้น สารพัดจะกันอาวุธทั้งปวง
ถ้าจะให้คุ้มคนที่ไปด้วย ให้ภาวนาพระคาถานี้ ๑๐๘ คาบ แล้วให้เพ่งมองไปคนที่ไปด้วยให้ทั่วแล้วภาวนาพระคาถานี้เป่าไปคนที่ร่วมไปด้วยสามารถจะคุ้มครองคนที่ร่วมไปได้ด้วยคลาด ต่อสารพัดอาวุธทั้งปวง ดีนักแล แล้วจักอยู่คงทนแคล้วทุกประการ
เคล็ดหลักการใช้ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ของ หลวงพ่อกวย เป็นคาถาเป่ากระหม่อม ผูกเป็นยันต์สักบนหัว คุ้มครองเตือนภัยได้ดีนัก
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ
อิโสตังพุทธะปิติอิ
หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ท่านมีอุปเท่ห์ใช้คาถามงกุฎพระพุทธเจ้าในหลากหลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็น “คาถาเป่าหัว” ให้กับสานุศิษย์ โดยเสกวนหัวสามรอบแล้วลูบลง อีกทั้งยังผูกเป็นยันต์เพื่อสักบนหัวของศิษย์อีกด้วย มีอานุภาพในการเตือนภัยได้ดีนัก และอื่นๆอีกหลายประการ
คาถามงกุฎพระเจ้า นี้เป็นคาถาเเรกๆที่หลวงพ่อเรียนจากหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ เเละท่านได้นำมาบรรจุหลังเหรียญรุ่นเเรกของท่าน
คาถานี้ หลวงพ่อเคยใช้เป่ากระหม่อมให้ลูกศิษย์ อีกทั้งยังทำเป็นตราประทับที่ด้านหลังรูปหลวงพ่อ หรือใช้ประทับหลังรูปของศิษย์เพื่อเป็นการเสริมดวง จนบางท่านเรียกยันต์เสริมดวงก็มี
ตามที่หลวงพ่อบันทึก ใช้เสกวนหัวสามรอบ เเล้วลูบลง
ยันต์มงกุฎพระเจ้านี้ หลวงพ่อสักบนหัวให้ลูกศิษย์ก็มี เเต่น้อยมาก มีอานุภาพสูง สามารถเตือนภัยได้ เมื่อมีภัยจะรู้สึกตึงหัว หรือรอยที่สักจะรัดตัว ทำให้ต้องระวังตัว
ยันต์หรือคาถานี้ มีอานุภาพทางคุ้มครองสูง ใช้กันมาเเต่โบราณกาล
อีกคาถา เป็นคาถาเสกข้าวกิน เป็นบท อิสสวาสุ ผสมกับวรรคสุดท้ายของมงกุฎพระเจ้า พุทธปิติอิ
ที่มา : บรมครู พ่อปู่ฤาษี วิศวามิตร
 ของหลวงพ่อกวย){kind=link}