เคล็ดที่จะช่วยให้เราไม่พลาดโอกาสที่ดีและยังจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการสะสมข้อมูล ในการใช้คาถานี้ก็มีเคล็ดลับด้วยเช่นกัน การท่องคาถา ไม่ว่าจะเป็นพระคาถาใดๆ เพื่อการใดก็ตาม ทุกๆ คาถามีนัยที่ต้อง
ปรับพื้นฐานให้เหมือนกัน ดังนี้
คนรับต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ : หมายความว่า ต้องรักษาศีล ๕ ไม่โหดร้าย มือไม่ไว ใจไม่เลว ไม่ขี้ปด ผิดลูกเมียเขา และไม่หมดสติ และคาถาแต่ละคาถาไม่ควรใช้เพื่อการทำร้ายผู้ใดใครทั้งสิ้น ควรเป็นไปในแนวทางเสริมสร้างความดี
บำเพ็ญบารมีจะดีกว่า
คนรับต้องมีศรัทธา : ต้องทำด้วยจิตใจเข้มแข็ง ไม่สะทกสะท้านเพราะเสียงของผู้ใดใครทั้งสิ้น ต้องมั่นใจในตัวเอง ต้องมั่นใจในคาถา อย่าตามลมปากของใครเป็นอันขาด
ต้องรู้จักสิ่งงดเว้นของคาถา : เช่นคาถานี้อาจจะต้องเว้นสุรา คาถานี้อาจจะต้องไม่เจ้าชู้ ก็ต้องเว้นอย่างเคร่งครัด ผิดไม่ได้ ผิดคือเสีย ไม่ใช่ทำผิดตอนนี้แล้วจะไปแก้คืนให้ดีกลับมาใหม่
ต้องรู้จักสิ่งเสริมคาถา : ต้องรู้ว่า คาถานี้ต้องเสริมคาถาทุกวันพระด้วยการทำบุญตักบาตร ด้วยการพูดจาดีๆ ด้วยการช่วยเหลือคนให้ได้ ๑ คนหรือ ด้วยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็ต้องพยายามทำตามนัยให้ได้ อย่าให้ขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด จะอ้างความขี้เกียจขึ้นมาเป็นตัวต่อรองไม่ได้โดยเด็ดขาด
นัยแห่งการรับคาถา : ไม่ว่าจะได้คาถามาจากใครผู้ใดก็ตาม ให้เขียนเอาคาถานั้นด้วยสีปากกาที่ต้องตามวันเกิดของตนเอง แล้วให้นำคาถานั้นไปไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดของตน จากนั้นในทุกวันทั้งเช้าทั้งเย็นก็ให้กำหนดสวดมนต์ไหว้พระอย่าได้ขาด ทำบุญทำทานเป็นประจำ ท่องบ่นสาธยายคาถานั้นให้ได้ตามกำลังวันเกิดของตน ในการกระทำนั่นก็ควร
ต้องมีเครื่องประกอบพิธีเป็นต้นว่า ขันธ์ ๕ เป็นหลักสำหรับเป็นบรรณาการในการสวดมนต์ไหว้ทุกครั้ง ควรต้องน้อมรำลึกบูชาคุณครูบาอาจารย์เจ้าของคาถานั้นๆ ด้วย ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านช่วยอำนวยการส่งผลดล
บันดาลให้ได้รับความสุขความเจริญ นัยตามที่กล่าวมานี้ให้ทำให้ได้อย่างต่ำ๙ วัน ในเย็นวันที่ ๙ จึงค่อยเอากระดาษเขียนคาถานั้นมาจุดไฟเผา กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร มีบ้างที่บางท่าน กำหนด
ทำบุญใหม่ในวันที่ ๙ อันเป็นวันสุดท้ายแห่งการบูชาพระคาถา นัยเช่นนี้ล้วนช่วยให้คาถามีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น
ต้องเคารพคาถา : กระดาษที่เขียนคาถานั้น ห้ามลบหลู่ดูถูกเป็นอันขาด เพราะโบราณาจารย์ท่านเชื่อกันว่า อักขระที่ใช้เขียนคาถามีเทวดาปกปักรักษาทุกตัวอักษร ไม่เชื่อไม่เคารพด้วยการกระทำก็จงอย่าเหยียบย่ำให้เป็นเวรเป็นภัยเป็นเสนียดจัญไรแก่ชีวิตของตนเองโดยไม่ใช่เหตุ อย่าแกว่งเท้าหรืออย่านอนทับ อย่าแสดงอาการลบหลู่ดูถูกเป็นอันขาด ไม่รักไม่ว่า แต่อย่ามาดูหมิ่นฉัน
ต้องเปิดคาถาด้วยการว่านะโม : เมื่อจะท่องหรือจะใช้พระคาถาใดๆ
ทุกๆ พระคาถา จะต้องตั้งนะโม ๓ จบก่อน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
คำเตือนจากหลวงพ่อเกี่ยวกับเรื่องคาถา : เงินทองเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการถึงแม้ว่าในขณะที่เราตายไปจะนำเอาติดตัวไปด้วยไม่ได้ก็ตามแต่เงินนั้นก็คือพระเจ้าที่จะเนรมิตได้ทุกๆ อย่างตามความต้องการของมนุษย์เรา เป็นสิ่งที่จะต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ต้องการเพื่อจะได้นำมาเลี้ยงชีวิตให้ยืนยงทั้งเมื่อบริโภคในสิ่งของนั้นๆ ก็จะทำให้มีกำลังวังชาแข็งแรงและสมบูรณ์ประกอบการงานได้ต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะใช้พระคาถานี้เรียกแล้ว แต่ก็ต้องทำมาหากินด้วย และต้องขยันหมันเพียรด้วยความมานะพยายาม และอดทนอีกด้วย จึงจะขึ้นชื่อว่าไม่ต้องทนอด
