เหรียญรุ่นสามกับรั้วของชาติ
หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

สำหรับหลวงพ่อกวยท่านเป็นพระที่ติดออกจะนักเลงไม่เกรงใคร ท่านชอบฅนใจจริงใจนักเลงและชอบทหารั้วของชาติ ตัวอย่างเหรียญรุ่น ๓ (รุ่นสุดท้าย) เมื่อแรกหลวงพ่อเขียนยันต์มหากาฬ (ไตรสรณคมน์) ให้นายช่างสมาน นิ่มปลื้ม ไปจัดสร้างเป็นเหรียญ โดยเลือกเป็นทรงแบบโล่ฝรั่ง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อกวยนั่งขัดสมาธิเต็มองค์ ส่วนด้านหลังลงยันต์มหากาฬตามแบบที่หลวงพ่อท่านให้มา ยันต์มหากาฬนี้ท่านเรียนมาจาก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ยันต์นี้ดีทางกันอาวุธและทรหด จากคำบอกเล่าของ พระอาจารย์สมาน อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวเด่น หรืออดีต นายช่างสมาน นิ่มปลื้ม ผู้รับคำสั่งให้สร้างเหรียญดังกล่าว ประกอบกับข้อมูลจากศิษย์ใกล้ชิดเช่น คุณป้าสมนึก ภู่งาม เล่าข้อมูลไว้ตรงกันดังนี้ว่า

สร้างเหรียญแจกทหาร
เมื่อแรกที่หลวงพ่อกวยท่านให้ไปสั่งทำเหรียญเพื่อแจกในงานยกช่อฟ้า โดยการสั่งทำเหรียญชุดแรกได้สั่งทำเป็นเหรียญโล่แบบหลังยันต์ กับเหรียญแจกแม่ครัว (ใบมะยม) มาก่อน เมื่อได้เหรียญมาแล้วหลวงพ่อท่านนำไปปลุกเสกแล้วแจกให้ศิษย์ใกล้ชิด กับพวกทหารที่มากราบท่านไป เข้าใจว่าที่ท่านเลือกแจกแก่ทหารก่อน เพราะท่านทราบดีว่าเมื่อได้ไปแล้วเดี๋ยวต้องมีลองของ คือ หลวงพ่อท่านไม่ยุให้ใครไปยิงพระท่าน แต่เมื่อท่านอยากจะลองของที่ท่านเสก ท่านจะเลือกฅนรับ เช่น ทหาร, ตำรวจ, นักเลง ประเภทนี้เมื่อได้ไปไม่นานก็รู้เรื่อง

เหรียญหลังหนุมานนำทัพ
ทราบว่ามีพวกทหารกลุ่มหนึ่งนำเหรียญหลังยันต์ไปลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออกบางลูกนกปืนไม่สับ บางลูกนกสับแต่ลูกปืนไม่แตก ภาษาชาวบ้านเรียกยิงไม่ติด พวกทหารกลุ่มนี้จัดว่าห่ามไม่เบา เมื่อเห็นว่ายิงไม่ติดแกไม่ชอบแกว่าไม่ดีแบบนี้ไม่เอา ได้มากราบหลวงพ่อแล้วเล่าให้หลวงพ่อกวยฟัง โดยให้เหตุผลว่าหากยิงแล้วปืนไม่ดังบางนี้ ทีเขานึกไปว่าอาจเพราะปืนเสีย หรือคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหาใช่คุณพระคุ้มครอง

พวกทหารจึงบอกขอต่อหลวงพ่อว่าอยากได้เอาแบบหมดข้อสงสัย เอาแบบบู๊ล้างผลาญแบบหนังจอเงิน เพราะในสนามรบอาวุธหนักสารพัดที่นำออกมาทำร้ายกัน หากของไม่มีฤทธิ์แท้จริงก็ไม่อาจสร้างขวัญกำลังใจได้ จึงอยากได้ชนิดทนแบบหนังแรดกับแคล้วคลาดยิงไม่ถูก เรียกว่าหากเขาสาดกระสุนมาต้องวิ่งสวนลูกปืนได้แบบนั้นเขาชอบ หลวงพ่อกวยท่านก็แน่เหมือนกัน ศิษย์ขอมาหลวงพ่อก็จัดให้ได้เหมือนกัน ไม่มีปฏิเสธขออย่างไรให้อย่างนั้น อาจเพราะหลวงพ่อท่านรักและเห็นใจพวกทหารเขาด้วย

ต่อมาหลวงพ่อกวยท่านจึงนำยันต์หนุมานนำทัพ หรือหนุมานเชิญธงรบนำทัพของพระราม หนุมานภาคนี้มีฤทธานุภาพมากด้วยเป็นผู้นำหน้าทัพออกศึก หลวงพ่อกวยท่านเก่งวิชาหนุมานเป็นอาจารย์สัก ท่านสักหนุมานให้ศิษย์จนเป็นที่เลื่องลือในคุณวิเศษมานาน ทราบว่ายันต์หนุมานนี้ท่านเรียนมาจากหลายอาจารย์ โดยอาจารย์ท่านหนึ่งที่เก่งวิชาหนุมาน และได้สอนวิชาหนุมานนำทัพนี้ให้ท่านนั้น ทราบว่าเป็นฆราวาสอยู่ทางจังหวัดกำแพงเพชร (ข้อมูลจากพระอาจารย์ตี๋ วัดเขาเขียว) ว่ากันว่าหนุมานเป็นทหารเอกของพระราม ของที่เสกเป็นรูปหนุมานจึงเหมาะสมกับ ทหาร, ตำรวจ, ข้าราชการ, ผู้มีหน้าที่ต่อสู้ปราบปราม หรือต้องรับคำสั่งจากเจ้านาย ต้องอาสาทำงานต่าง ๆ ก็จะสำเร็จลุล่วงเหมือนหนุมาน มักเป็นที่รักเมตตาจากผู้ใหญ่และเจ้านาย

เจตนาการสร้าง
หลวงพ่อกวยท่านนำแบบยันต์หนุมานให้นายช่างสมาน ไปสั่งทำเหรียญรูปทรงเป็นแบบโล่ฝรั่งแบบเดิม แต่ด้านหลังให้ใส่ยันต์หนุมานนำทัพ โดยสั่งทำเป็นเนื้ออัลปาก้าเพื่อแจกแก่ทหาร ทั้งนี้หลวงพ่อท่านอยากทูลเชิญพระเจ้าอยู่หัวมายกช่อฟ้า วัดโฆสิตาราม อยู่ก่อนแล้ว ท่านจึงถือโอกาสนี้จะได้นำเหรียญหลังหนุมานทูลเกล้าถวายพระเจ้าอยู่หัว เพื่อท่าได้นำไปแจกทหารหาญ ตามแนวรบที่เสี่ยงภัยอันตราย

แต่สุดท้ายเรื่องที่ท่านส่งไปทางคณะสงฆ์จังหวัดไม่ผ่าน เขาไม่ยอมส่งเรื่องของท่านต่อไปยังสำนักพระราชวัง โดยให้เหตุผลว่าวัดท่านเป็นวัดเล็ก ๆ ห่างไกล เกรงจะถวายการตอนรับเสด็จได้ไม่สมพระเกียรติ เรื่องทั้งหมดจึงเงียบไป เรื่องนี้สร้างความผิดหวังให้กับหลวงพ่อพอสมควร แต่ท่านไม่พูดไม่บ่นไม่แสดงออก แต่ศิษย์ใกล้ชิดต่างรู้ดีว่าท่านผิดหวัง

เหนียวหนึบไม่มีได้เลือด
เหรียญหลังหนุมานนี้เมื่อหลวงพ่อเสกแล้วได้แจกให้พวกทหารไป ไม่นานพวกทหารที่ได้เหรียญหลังหนุมานนี้ไป เขาพากันเป็นมาที่วัดเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อมาขอบูชาเหรียญหลังหนุมาน โดยเขาเล่าว่ามีพวกทหารด้วยกันไปโดนยิงด้วยปืนลูกซอง ตอนโดนเข้าใจว่าไปมีเรื่องนอกค่าย แล้วโดนยิงด้วยปืนลูกซองหลายนัดจนเซ ลูกปืนทะลุผ่านเสื้อแสงจนขาด แต่กระสุนไม่อาจทะลุผ่านผิวหลังได้ มีแต่รอยจ้ำแดง ๆ กับรอยไหม้เป็นทาง

มีลูกกระสุนบางส่วนทะลุกางเกงแล้วตกไปอยู่ที่ระหว่างปลายขากางเกงกับรองเท้าคอมแบท (รัดท๊อป) พวกทหารนำเสื้อกับกางเกงที่เป็นรอยกระสุน ทั้งนำลูกปืนที่ตกในปลายขากางเกงมาให้หลวงพ่อดู พวกหทารเขาเชื่อถือมากว่าออกปากว่า แบบนี้เหนียวหนึบเป็นหนังแรด ตอนที่พวกทหารมากราบหลวงพ่อกวย คุณป้าสมนึก ภูงาม อยู่ในเหตุการณ์ได้ฟังพวกทหารคุยกับหลวงพ่อ และเป็นผู้เล่าข้อมูลในส่วนนี้ให้ผู้เขียนทราบ เห็นควรนำมาเล่าสู่ให้ศิษย์หลวงพ่อกวยรุ่นหลังได้ฟังดังนี้

Cr. ข้อมูลและภาพประกอบบทความจาก
หนังสือเรื่องเล่าเคล้าปาฏิหาริย์ตำนานวัตถุมงคล
หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม เขียนโดย ฅนขลัง คลังวิชา