สกู๊ฟพิเศษ ครั้งที่ 1
วันอาทิตย์ ที่ 7 ตุลาคม 61 เวลา 6:30 น.
กราบสวัสดีท่านบก. ปริญญา เอื้อชูวรนนท์และ บก.สุธน ศรีหิรัญ
เรื่อง ชี้แจงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยความเคารพ

หนังสือลานโพธิ์ออกมา 3 ฉบับ รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติอย่างสูงของเฒ่า สุพรรณ จะขอแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของเรื่องดังนี้
1) เจ้าอาวาสองค์ก่อนหลวงพ่อกวย องค์ที่ 4 ชื่อ หลวงปู่ขวด ได้สอนหนังสือ กอ, ขอ, กอ, กา ฯ และภาษาขอมให้ องค์ที่ 5 ชื่อ หลวงปู่มา ได้สอนเทศน์มหาชาติให้ พระปูนปั้น (พระพุทธเจ้าในวิหาร) สร้างสมัยหลวงปู่มา สร้างเสร็จ พ.ศ. 2473 เขียน พ.ศ. เอาไว้ ชอบบน (รับบน) ด้วยประทัด แต่หลวงพ่อไม่ชอบ เจ้าอาวาส องค์ที่ 6 คือหลวงพ่อ องค์ที่ 7 อาจารย์สำรวย ปั้นสน องค์ปัจจุบันองค์ที่ 8 องค์ปัจจุบันอาจารย์บุญยัง ถาวโร

2) ความหมายของคำว่า “ชุตินฺธโร” ที่แปลว่า “โลกนี้มีแต่ความวุ่นวายของโลก หนักไปด้วยกิเลส ตัณหา คือ โลภ โกรธ หลง ทั้งสิ้น ถ้าท่านได้ละกิเลส ตัณหา ได้ ก็จะถึงซึ่งฝั่งพระนิพพาน” คำแปลนี้หลวงพ่อแปล ให้หมอเฉลียว เดชมา เอาไว้ เตรียมพิมพ์เป็นหนังสือ เพื่อแจกงานประชุมเพลิง แต่ยังไม่ได้พิมพ์ (ยังไม่มรณภาพ) ภายหลังทางวัดเขาคิดค้น คำแปลเพิ่ม หรือความหมายใหม่แปลว่า “ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรื่อง” ก็อาจจะถูกทั้ง 2 คำแปล (ความหมาย) (ฉบับเดือนสิงหาคม หน้า 5 ปกเหรียญรุ่นแรก)

3) หมอเฉลียว เดชมา เป็นศิษย์ฆราวาส เป็นมือขวา หรือพ่อบ้าน ขี่รถมอเตอร์ไซค์รับใช้หลวงพ่อ (หลวงพ่อไม่ใช้รถกระบะ ทางไม่สะดวก) เดิมเรียนหมอโบราณ ภายหลัง ไม่ทันเหตุการณ์ เลยเรียนหมอฉีดยา เรียนจากหมอทหาร (หมอตีนเปล่า) หลวงพ่อรักศิษย์คนนี้มาก (มือขวา) ส่วนนายสมาน คือช่างสมาน เป็นช่างทำโบสถ์ให้วัดหลวงพ่อ ภายหลังบวชเป็นเจ้าอาวาสวัดหัวเด่น เป็นฆราวาสมือซ้าย

4) พระแจ่ม บวชพร้อมกับหลวงพ่อ (ปีเดียวกัน) บวชประมาณ 6 พรรษา (หลวงพ่อปรง สาสโน วัดห้วยเจริญสุข ก็บวชปีเดียวกัน) พระแจ่มพบตำราในโพรงไม้ ได้มาบอกให้หลวงพ่อนำมาเก็บรักษาไว้ ภายหลัง 2 องค์ลาสิกขาบท (สึก) ไปเป็นเสือ เป็นโจร หลวงพ่อปรง กลับมาบวชอีก นายแจ่มเป็นเสือ โดนอาจารย์ฝ้าย (เสือฝ้าย) สั่งฆ่า ยิงไม่ออก ไม่เข้า ทุบเสียตาย ลูกปืนเป็น 100 ลูก ตกที่หน้าตัก ตายขณะนั่ง มีแหวนแขน หลวงพ่อกวยเพียงวงเดียว ยิงไม่เข้า แม้นัดเดียว (หน้า 6 ปกเหรียญรุ่นแรก เดือนสิงหาคม)

5) หลวงพ่อ เคยเอาคันกระสุน ใช้ลูกดินยิงศิษย์ เป็นความจริง คือ ยิงนายฟ้อน จั่นหนู ขณะมาช้อนปลากัด จนน้ำขุ่น แต่ไม่ยอกตักน้ำใส่สระ (คนบ้านแค, คนสรรค์) อีกคน คือ เสือนี (ตานี) มาขอตะกรุด แต่เช้าเรียกท่านแบบขาดความเกรงใจ เสือนีเป็นเสือร้ายแห่งดวงพิกุล อำเภอเดิมบางฯ จ.สุพรรณ ขนาดนายสมาน พกปืน 2 กระบอก ยังกลัวเสียนี่ หลวงพ่อต้องให้คาถานกยูงทองไปสวด (ได้ไปเพียงคนเดียว) (ข้อ 14 หน้า 52 ปกปิดตาหลวงพ่อเชย เดือนกันยายน)

6) อาจารย์ปู่ของหลวงพ่อ คือหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว (คังคาว) วัดอยู่ไม่ไกล จากวัดของหลวงพ่อ ประมาณ 5 กิโลเมตร รับบน แบบหลวงพ่อ มีลิงอยู่เป็น10,000 ตัว บางคนพูดว่าเกือบ 1 หมื่นตัว ชื่อจริงของท่านไม่มีใครกล้าเรียก เพิ่งจะมาเรียกในตอนหลัง (เด็กรุ่นหลัง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง) อายุท่านยืนตก 130 ปีขึ้น เพราะแม่ย่าทวด (ทวด) ของผู้เขียน อายุรุ่นเดียวกันก็ 130 ปี ((หูยาว ถึงพื้น (ถ้านอน) ) ท่านเป็นอาจารย์ของลพ. ปากคลองมะขามเฒ่า (ศุข) ผู้เขียนได้รับเกียรติได้นำพาท่าน บก.สุธน และ บก. ปริญญา ไปชมวัด ครั้งไปบันทึกภาพ วัดหลวงพ่อกวย และท่านบก. ได้ไปบันทึกภาพเจดีย์ที่บรรจุพระโคนสมอ (ซุ้มประสาท) ของวัดค้างคาว ผมอายุมากแล้ว เจอพี่สุธน กลายเป็นเด็กเฝ้ารถไปเลย กลัวลิงเล่นรถ พี่ 2 คนแข็งแรงมาก สุภาพดี นิสัยดี บก.สุธน เขียนหนังสือดีกว่าผู้เขียน เป็นร้อย ๆ เท่า หลวงพ่อเฒ่าชื่อจริง (ปั้น) เป็นทหารเอก (เคยเป็น) ของพระเจ้าตาก ตอนเปลี่ยนกรุง ท่านบวชเดินธุดงค์มาหอบตำรามาจากวัดป่าแก้ว (วัดของ อ.พระนเรศวร) มา 1 องค์ กับ 1 พระกาฬ (ลิง) ชื่อไอ้หอย ไอ้หอยมีลูกมีหลานกับลิงป่า เป็นพัน ๆ ตัว และวัดค้างคาว เป็นกู่เก่าของพระนารายณ์ ส่วนอาจารย์อีกองค์หนึ่ง หน้า 51 ปก สมเด็จ ลป.เทียน วัดโบสถ์ กล่าวถึงอาจารย์ของหลวงพ่อคือ หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อไม่ทัน หลวงพ่อเรียนวิชา 9 เฮ หินเบาของอิสลาม หลวงพ่อจดตัวคาถาไว้ 2 ครั้ง ครั้งแรกยังไม่ได้ยกครู เขียนชื่อครูเอาไว้ถูก แต่เขียนวัดผิดคือเขียนวัดว่า หลวงพ่อกลั่น วัดทะยาน ท่านเรียนจากครู 2 คน 1 พระคือ ครูรุน (ลุน), ครูเพ็ง, อาจารย์แหร่ม วัดท่าช้าง (สิงห์บุรี) เดี๋ยวจะหาว่าผู้เขียนแอบอ้าง ว่าเกิดไม่ทัน แล้วจะเป็นครูอาจารย์กันได้อย่างไร

กับหลวงพ่อปากคลอง (ศุข) หลวงพ่อบวชเป็นเณร อายุ 17-18-19 ปี เป็นปีที่หลวงพ่อปากคลองฯ สร้างเหรียญรุ่นแรก (รูปไข่) หลวงพ่อได้วิชาทำตะกรุดมา มีลายมืออยู่ เจอกับหลวงพ่อเอียวัดบ้านด่าน เล่าให้อาจารย์ตั้ว วัดซับลำไย (ศิษย์ฝัง) หลวงพ่อเอียก็บวชเณร อายุเท่ากัน แต่มรณภาพก่อนหลวงพ่อ 1 ปี คืออายุ 73 ปี (ยันต์ลงตะกรุด ลพ.ปากคลอง ผู้เขียนมียืนยัน หลวงพ่อเขียนไว้ว่า มีอานุภาพเทียบเท่าเหล็กไหล)

กับหลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส สุราษฏร์ธานี หลวงพ่อไปมาเรียนสายเขาอ้อ วิชาลงตะกรุด ลูกไม้ลูกประคำดีควาย, ลูกรัก, ลูกสวาท, ลูกลาน, เชือกประกำช้างกันโจ (โจ แปลว่า หนัง = คุณหนัง) ท่านเคยนำเหรียญปั้มรุ่นแรก ด้านยันต์กดลงที่พระสิวลี เนื้อผงใบลาน พิมพ์กางร่มเอาไว้ นับว่าหลวงพ่อเป็นศิษย์เขาอ้อที่อยู่ภาคกลางเพียงรูปเดียว คาถาลายมือหลวงพ่อจดคาถาหลวงพ่อ โองการเกราะเพชร, โองการมหาทหมื่น ผู้เขียนได้ไว้ (เกราะเพชรลายมือสวยมาก)

- อาจารย์ทางปลัด หลวงพ่อเรียนทำปลัดลูกแก้ว จากหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ทางภาคตะวันออก ตอนนั้นท่านยังแข็งแรงมาก จารครบสูตรทุกตัว จารลึกมาก จาร 4-5 แถว จารก้น จารหัว และเรียนจากหลวงพ่ออี๋ สัตหีบด้วย วิชาลงปลัด 2 สำนักนี้ หลวงพ่อเอาอักขระมาจารรวมกัน โดยเฉพาะปลัดแม่หม้าย (สากกระเบือแม่หม้ายโดยมากชนิดดูง่ายจะเป็นไม้ตาล) จะขอโชคลาภได้เป็นพิเศษ 2 องค์หลวงพ่อทัน (มีแต่ปลัดยืนยัน หลวงพ่อกล่อมก็มีแต่เหรียญที่กดลงในพระยืนยัน) หลวงพ่อจง เมตตาหลวงพ่อมาก ปี 2506 เสกที่กรุงเทพ หลวงพ่อจงเคยพาไป ไปพบศิษย์ที่วังอัศวินก็เคย แต่หลวงพ่อก็คิดค้นทำปลัดของท่านเอง (เอกลักษณ์) คือเหลาแหลมหัว แหลมท้าย เจาะรู 3 ใน 4 ส่วน จารเต็ม โดยมากทำจากไม้งิ้วดำ ท่านบอกนี่คือตัวแทนของพระศิวะ เคยพบชนิดเนื้อใบลาน และเนื้อดิน (ยอดขุนพล) คือ ท่านนำเหรียญหลวงพ่อเงิน ปี 2500 (เสมา) กดจมลงไป, เคยนำเหรียญหลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์ (ศิษย์ร่วมอาจารย์) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม) กดลงไป, เคยพบเหรียญหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทธา กำแพงเพชร กดลงไป, เข้าใจว่ามีอีก แต่จำไม่ได้ เรื่องการเดินทางไปเรียนวิชา หลวงพ่อไม่ใช่พระธุดงค์เต็มร้อย เวลาจะไปหาครูอาจารย์ จะแต่งชุดพระธุดงค์ เจอรถใครให้ขึ้นก็ขึ้น ไม่มีรถก็เดิน ค่ำไหนนอนนั่น เรียนเสร็จก็กลับ

7. ขอชมเชย ทาง บก. ได้ลงรูปให้ดูง่ายเกือบทั้งหมด รูปเป็นเพียงแนวทางการซื้อหา ดูสี, ดูเนื้อ, ดูพิมพ์, เนื้อดินดูให้ออกว่า เขาผสมสีปูนลงไปหรือเปล่า สึกเพราะเจตนาหรือเปล่า, พระสมเด็จสีที่ดูยาก คือ สีน้ำตาล สีน้ำตาลที่ดูง่ายคือ พิมพ์ทรงเจดีย์ (มีขาว, น้ำตาล, เนื้อพิเศษ ดินไม่มี) รูปนั้นผู้เขียนไม่ได้ส่งไปให้ทั้งหมด ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วย บก. พิจารณาร่วมกัน เพราะพระหลวงพ่อสร้างหลากหลายพิมพ์ หลากหลายเนื้อ แต่พิมพ์ละไม่มาก รูปที่ลงจึงเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น (9 ใน 10 รูป ดูง่าย แท้ดูง่าย)

8. อยากให้ทาง บก. คุณพี่สุธน, บก. ปริญญา มาถ่ายทำเรื่องเป็นซีดีเอาไว้ เรื่อง จระเข้ นายกรวย เพราะเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่จริง ยังไม่ตาย แต่เคยแปรงร่างเป็นจระเข้ เป็นวิชาของหลวงพ่อกวย หลวงพ่อกวย อาจเป็นพระองค์สุดท้ายของภาคกลาง ที่ทำวิชานี้ได้ ตัวจริง ตัวเป็น ๆ ไม่ได้สตั๊ฟ เอาไว้ บ้านเขาก็อยู่ไม่ไกลจากวัด 5-6 กิโลเมตร (ข้อมูลจากฅนขลัง วิชาคลัง)

9. หน้า 53 เล่ม เดือนตุลาคม ปกสมเด็จหลวงปู่เทียน คาถาเรียกจิตผีตายโหง พิมพ์ไว้ผิด ผมผู้เขียนกราบขอโทษ คาถาขึ้นต้นด้วย “จิ เจ รุ นิ จิต ตัง เจ ตะ สิ กัง วิญ ญา นัง ...”

10. ก่อนจะสายเกินไป ถ้าอยากจะไปหรือมากราบ ศิษย์องค์ที่นับสืบวิชาของหลวงพ่อเอาไว้ (ทัน) อายุ 90 ปีเศษ ท่านคือ หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ ท่านได้วิชา ทำน้ำมนต์ (รดน้ำมนต์ บาตรเดียว) แต่ปัจจุบันรดไม่ไหวแล้ว สร้างวัตถุมงคล คล้าย ๆ ของหลวงพ่อ ปรกโพธิ์ 9 ใบ, แหวกม่าน สมเด็จ, ไม่ค่อยนิยมสร้างมีดหมอ, ตะกรุด, ดีทางเมตตา แคล้วคลาดฯ

วันนี้ขอนำเสนอแต่เท่านี้ก่อน 10 ข้อ (3 ฉบับ) ขอขอบคุณทุกท่าน ขอขอบคุณคุณพี่ทั้ง 2 คน (ท่าน)

เคารพจากใจ
เฒ่า สุพรรณ

ที่มา: เฒ่า สุพรรณ
(อ.สมจิตต์ เทียนจันทร์)
56 หมู่ 5 บ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ
อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 72120
โทร. 081-943-7368