Luang-Por-Guay-010

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกวย
ผู้วิเศษแห่งเมืองสรรค์ และข่าวดี “มงคลถาวร”

หลวงพ่อได้บรรจงสรรค์สร้าง เหรียญรูปของท่าน คือ รุ่นแรก สร้างปี 2504 เสก 2 ปี จึงแจกศิษย์ ปี 2506 (เดิมผู้เขียนพูดว่า เหรียญรุ่นแรกปี 2506 แต่ทางศิษย์ เขาจะพูดปีเกิด คือ ปีสร้าง คือ 2504 ผู้เขียนจึงฟังเขา เอาเป็นว่า 2504) เหรียญสร้างประมาณ 5,000 เหรียญ (ห้าพันเหรียญ) มีเนื้ออัลปาก้า 20 เหรียญ (ข้อมูลเก่า 9 เหรียญผิด) สมัยก่อนการสร้างเหรียญและรูปหล่อทำได้ยากมาก (โดยเฉพาะรูปหล่อปั้ม) เล่ากันว่าต้องเอาแบบเหรียญ ยังไม่ตัดขอบ เอาไปเผาไฟ จึงจะปั้มให้เป็นรูปได้ แบบตีมีดเหรียญที่ 20 เหรียญอัลปาก้า อันสุดท้าย เผาไฟไม่ได้ขนาด คือ ความร้อนและเวลาไม่ได้ โลหะแข็งตัวพอปั้ม ปั้มไม่ลงไม่ได้รูป พอปั้มซ้ำ เหรียญเขยื้อน เหรียญเสีย บล๊อคก็เสีย เหรียญที่ 20 หลวงพ่อให้หลานท่านไว้ (ป้าสมนึก ภู่งาม) เหรียญไม่ได้บอก พ.ศ. ด้านหลังยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า ใส่แบบเต็ม ๆ เหรียญจึงค่อนข้างโต แต่บาง เหรียญจึงไม่หนักคอ คาถายันต์มงกุฏพระพุทธเจ้านี้ ป้องกันภัยได้ทุกแบบ กันอาวุธปืน, กันเขี้ยวงา, ปักเป้า, จระเข้, งูพิษ, กันภัยได้สูงมาก เป็นคาถาที่มีอยู่ในตำราพิชัยสงคราม แม่ทัพแต่ก่อนต้องเรียน เป็นคาถาสำคัญพอ ๆ กับคาถากันภัย 8 ทิศ หลวงพ่อเคยเขียนตะกรุด และผ้ายันต์ โดยใช้คาถายันต์มงกุฏพระเจ้า แล้วล้อม 8 ทิศ ด้วยคาถากันภัย 8 ทิศ กันภูติ, ผี, โจร, เสือ, ช้าง ได้ อาวุธก็กันได้ จะเตือนภัยบอกเหตุให้ตื่นได้ เวลามีภัย (ยันต์ลายมือของท่าน มีอยู่ในตำรายันต์เล่ม 3 หน้า 37 (75) ส่วนคาถาภาวนาประจำเหรียญ คือคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า คาถานี้น่าเรียน คาถาว่าดังนี้

• อิ ติ ปิ โส วิ เส เส อิ อิ เส เส พุท ธะ นา เม อิ อิ เม นา พุท ธะ ตัง โส อิ อิ โส ตัง พุท ธะ ปิ ติ อิ
• คาถาลงท้ายด้วย ปิ ติ อิ ขึ้นต้นด้วย อิ ติ ปิ

คาถานี้ถ้าจะเสกข้าวกิน ให้ว่า คาถาต่อท้ายว่า “ตะ โจ พระพุทธเจ้า จงมาเป็นหนัง, มังสัง พระธรรมเจ้า จงมาเป็นเนื้อ, อัฏฐิ พระสังฆเจ้า จงมาเป็น กระดูก, ตรีเพชร์ ฆง ฆง อิสวาหะ หะสวาสุ สุสวาอิ พุทธปิติ อิ” ฯ (คาถานี้เรียก มงกุฎของพระพุทธเจ้า) ประเสริฐนัก

คาถานี้เขียนตามลายมือ ของท่านทุกอย่าง หน้า 95 (79) เล่ม 3 คาถาที่ใช้เสกข้าวนี้ ไม่เคยเขียนมาก่อนนี้ และไม่พบในตำราคาถาของอาจารย์องค์อื่น ส่วนคาถาท่อนบน คือ คาถามงกุฏพระพุทธเจ้านี้ เล่ากันว่า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เคยประทานให้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จประพาสยุโรป (ฝรั่งเศส) และพระเจ้าอยู่หัวของฝรั่งเศส ได้ประทานม้าพยศพันธุ์ฝรั่งเศส ใหญ่โตมาก ไม่เชื่องให้รัชกาลที่ 5 เพื่อทดสอบบารมีและบุญญาธิการ พระพุทธเจ้าหลวงได้ใช้คาถา มงกุฏพระพุทธเจ้าท่อนบนที่เป็นภาษาขอม เสกหญ้าให้ม้ากิน และทรงขี่ได้โดยง่าย และนำกลับมาประเทศไทย ภายหลังได้ปั้นพระบรมรูป โดยทรงอยู่บนหลังม้า ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

ยันต์นี้นิยมเขียนหรือพิมพ์เพื่อรองหมวก เวลาเข้าสงคราม ถ้าจะสัก จะสักได้ตำแหน่งเดียว คือ ศีรษะ เพราะเป็นยันต์สูง แม้ยันต์ดวงแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อยังสักตรงกระดูกคอ ด้านหลังใต้ขอบเสื้อ คาถานี้ ภาวนาเป็นกำบังได้ (หายตัว) ดับขันให้แอบที่กอหญ้า ยึดกอหญ้าหลับตาภาวนาคาถานี้ แม้หลับอยู่ก่อนหลับภาวนาคาถานี้ เมื่อหลับคนจะหาไม่พบ (ถ้ามาไม่ดี) เสกกิ่งไม้ใบไม้ นำมาผูกประตูเข้าบ้าน (ด้านนอก) คนร้ายจะหาบ้านไม่เจอ ไปเผาผีมา ไม่อยากให้ผีตามมาบ้านถูก ให้เสกกิ่งไม้ใบไม้ ผูกประตูบ้าน ผีหาบ้านไม่เจอ ป้องกันผีแม่หม้าย ก็ทำแบบเดียวกัน ภาวนาเป็นกำบัง, แคล้วคลาด, มหาอุด, จังงัง, เมตตา ได้ แล้วแต่จะนึกเอาภาวนาก่อนนอน เป็นกำแพงล้อมรอบตัวเอง ล้อมรอบบ้าน, ล้อมสิ่งของได้ ภาวนาเป็นกำแพงล้อมตัวเอง ผีจะเข้ามาทำร้ายไม่ได้เลย

จริง ๆ แล้ว ในเมืองสรรค์และใกล้เคียง ยังมีพระที่เก่งทางกันอาวุธพอ ๆ กับหลวงพ่อ หรืออาจเก่งกว่า ได้สร้างเหรียญไว้ องค์ละ 1 รุ่น สมควรบันทึกเอาไว้ เพราะเขาเก่งจริง สร้างไว้ทันตัว ถ้าท่านพอมีฐานะควรหาไว้ แต่จะหายากสักหน่อย (เพราะทำไว้น้อย เหรียญและรูปหล่อ) เรียงไว้ตามลำดับอายุ ดังนี้

(1) หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง วัดอยู่หลังตลาดสรรค์บุรี ตรงข้ามบ้านพระเอก กุ้ง สุทธิราช วงศ์เทวัญ อยู่คนละฝั่งแม่น้ำ (แม่น้ำน้อย) เหรียญท่านเป็นเนื้ออัลปาก้า รูปไข่
(2) หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม อยู่หลังตลาดสรรค์ วัดอยู่ริมแม่น้ำน้อย ขึ้นไปทางเหนือของตลาดสรรค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างเหรียญรูปใบมะยม อัลปาก้า
(3) หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ วัดอยู่ทางทิศตะวันออก ของตลาดสรรคบุรี มาทางสรรพยา วัดเดียวกับหลวงพ่อเชื้อ สุกวัณโณ เหรียญทองแดง รูปไข่เต็มองค์ ออกแบบสวยมาก เนื้อหาเก่าเป็นสำริดเลย (เหรียญหลวงพ่อปลื้ม เนื้ออัลปาก้า ใบมะยม แบบหลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์) หลวงพ่อคง เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อโม และหลวงพ่อเชื้อ
(4) หลวงพ่อโม ธัมมรักขิโต วัดจันทนาราม วัดอยู่ทางแยกเข้าวัด หลวงพ่อคงและหลวงพ่อเชื้อ ติด ๆ กัน เป็นศิษย์หลวงพ่อศุข วัดปากคลองฯ และหลวงพ่อเดิม หนองโพ องค์นี้สร้างเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์เหรียญขนาดกลาง, รูปหล่อปั้มสวยมาก องค์นี้บู้ร้างพลาญเลย เหนียวสุด ๆ (เหนียวแบบไก่ตี), หลวงพ่อโต คล้องอยู่ จะทำอะไรใครก็ไม่ได้ เขาจะมาทำอะไรก็ไม่ได้, หลวงพ่อปลื้ม คงกระพันสูง ยันต์ที่ลง คือ อุทธัง อัดโธ โธอุด ทังอัด (ลงชัดเจน), หลวงพ่อคง ดีทางคงกระพัน มหาอุดถอนคุณของด้วย (บ้านเดิมท่านอยู่โคราช) เหรียญหลวงพ่อเชื้อ ปี 2506 รุ่นแรกก็เก่ง เช่นกัน

สี่องค์นี้ผู้เขียน ขอรับประกันความเก่งของเหรียญและวัตถุมงคลขึ้นเหนืออีกหน่อย ก็เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า (ศุข) ไปทางใต้อีกนิ๊ด ก็เหรียญรุ่นแรกใบมะยม หลวงพ่อศรี (สี) วัดพระปรางค์ หลวงพ่อกวย เรียนวิปัสสนา ตอนอายุ 28 ปี 8 พรรษา กับหลวงพ่อศรี (สี) และเรียนยันต์มงกุฏพระเจ้า จากหลวงพ่อศรี ทำได้ขลังมาก ถ้าสักลงศีรษะ จะรัดเตือนภัยได้ เวลามีภัย ตำรวจกักด่าน ก็จะรัดเตือนภัย คนไม่ดีมาบ้านก็จะรัดเตือนภัยได้ นายเชนเคยทำแหวนแขวนขาด (เตือนภัยถึงตาย) ได้ไปขอแหวนแขนจากท่านใหม่ ท่านให้โกนหัวแล้วสักยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าให้เขาจะรัดเตือนภัยทุกครั้ง ถ้ามีภัย ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อนี้ เดือน ธันวาคม 2560 เช่าหากันเนื้อฝาบาตร 1 ล้าน 5 แสนบาท เนื้ออัลปาก้า ปลายปี 2559 เช่าหากัน 3 ล้านบาท นับว่าแพงมาก รุ่นต่อ ๆ มา 2-3 (ออกให้วัดเขาใหญ่ 1 รุ่น, วัดเดิมบางฯ 1 รุ่น) ก็แพงตาม ๆ กันมา แม้จะสร้างในรุ่นหลัง ศิษย์ก็นิยมใช้ดีด้วยไม่ต้องจ่ายแพง เช่นเหรียญหนุมานต้องจ่ายถึงเกือบ 1 แสนบาท ถึงแสนเศษ ถ้าสวย (2560) แต่ถ้าบูชาของใหม่ จ่ายแค่ 200 บาท ก็ได้คล้องขลังด้วยโก้ด้วย คล้องออกนอกเสื้อเลย ทั้งตลาดสรรค์, ตลาดหันคา, ตลาดท่าช้างฯ หลวงพ่อมีความพิเศษกว่า หลวงพ่ออีกหลายองค์ ซึ่งศิษย์รุ่นหลังให้เหตุผล คือ วัตถุมงคลที่สร้างในนามหลวงพ่อ เช่น รูปของท่าน จะเก่าจะใหม่ จะมีคุณวิเศษ คล้าย ๆ กัน ขอให้สร้างปลุกเสกถูกต้อง บอกเล่าท่าน เจตนาบริสุทธิ์ จะขลังไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน คุณวิเศษที่กล่าวถึงนี้ พอสรุปได้ดังนี้ (1) คงกระพัน, แคล้วคลาด, กำบัง, กันศาตราวุธ, สุนัขกัดไม่เข้า, เหนียว บางคนคล้องอยู่เหยียบตะปูทะลุรองเท้า ตะปูคดเลย ไม่เข้า, ขี่รถชนหลักกิโลเมตรรถไม่พังมาก คนกระดูกไม่เคยหักเลย รถใหญ่กระบะ, เก๋ง ถ้าจะชนกัน ก็เล็กน้อย ตกข้างทาง คนไม่เป็นอะไร, แหวนนิ้ว วงเดียว คุ้มเด็กในรถ 8-9 คนได้ พลิกคว่ำหลายตลบ (หมอเฉลียว เดชมา) เรื่องแรกนี้ ผู้เขียนว่าไม่เท่าไร หลวงพ่อองค์อื่นก็ทำได้ (2) รักศิษย์ หลวงพ่อมีความเมตตาต่อศิษย์เหมือนพ่อรักลูกศิษย์ทุกข์ร้อนทางใจ ไม่ว่าเรื่องเล็ก, เรื่องใหญ่, เรื่องไม่เป็นเรื่อง, เรื่องไร้สาระ, ถ้าช่วยได้จะช่วยเลย ไม่มีการครอบครูเอาหัวโขนมาใส่ ไม่มีการเรียกร้องค่าครู อยากมีผัวฝรั่งก็หาให้, มีหนี้เป็น 10-20 ล้านมาบอก ให้ช่วยก็ช่วย, จะสอบเป็นครู, เป็นตำรวจ, ทหาร, มาบอกให้ช่วย ช่วยได้ก็ช่วย นายหม่อง เป็นตำรวจ สภอ.บ้านไร่ ชื่อจริง (ลำพอง) ปัจจุบันคงติดนายร้อยแล้ว ตอนสอบเป็น พล.ตำรวจ วิ่งสู้เขาไม่ได้ รั้งท้ายเลย บอกกับหลวงพ่อในใจ พอจะเข้าเส้นชัย เหมือนมีคนมาถีบ หัวทิ่มเข้าเส้นชัยได้ที่ 1 หลานป้าสมนึก ภู่งาม บ้านอยู่ตรงข้ามป้ายปากทางเข้าวัดสี่แยก มีหลานสาวจบครูมา ปริญญาตรี ชื่อ ปู สอบบรรจุไม่ได้มา 2-3 ปีแล้ว สาเหตุเพราะหนุปู เป็นครูที่ดี เด็กรักมาก เวลาจะสอบบรรจุ ก็บนกับหลวงพ่อ ขอให้สอบบรรจุให้ได้ เด็กนักเรียนรู้เข้าก็ไปบนบ้าง ยกห้องไป 2-3 ห้อง ขอให้คุณครูปู จงอย่าสอบได้ เพราะพวกหนูรักคุณครูปูมาก ไม่อยากให้ไปสอนที่อื่น ผลการสอบ แรงสินบนของเด็กเป็นร้อยคนชนะ ครูปูก็สอบไม่ได้ หลวงพ่อก็ไม่เท่าไร ผมเคยขอให้ถูกหวย 90 ล้าน ชื้อหวยที่วัดเลย คิดเพ้อฝันไปว่าถูกหวย 90 ล้าน จะให้พี่, ให้น้อง ที่เหลือ 80 ล้านให้ลูกและเมีย พอหวยออกมาถูกแต่ตัวแรกกับตัวสุดท้าย หนูปูก็เสียใจ ป้าสมนึก ยิ่งเสียใจใหญ่ สอบมา 2-3 ปีไม่ได้ เดือน ธันวาคม 60 ผมไปวัด โทรหาป้า ป้าไม่อยู่บอกว่า พาหลานไปสอบบรรจุครูที่ชัยนาท กลัวเด็กมาบนไม่ให้สอบได้ ป้าพูดด้วยความน้อยใจ ผมตำหนิว่าป้าทำไม่ถูก ไม่น่ามองข้ามหลวงพ่อ ป้าพูดว่าให้ผมบอกเล่าหลวงพ่อให้ที ผมบอกได้ มาบอกกับหลวงพ่อให้ช่วยหนูปูด้วย บนว่าจะบวชพระให้ 1 รูป ผ่านมา 3 วัน ผมโทรไปถามป้า ป้าบอกว่า สอบติดแล้วได้ที่ 1 ของชัยนาทเลือกโรงเรียนอนุบาลสรรคบุรี ตรงข้ามบ้านกุ้ง สุทธิราช วงศ์เทวัญ ผมดีใจมาก ถ้าผ่านไปวัดว่าจะลงขันบวชพระด้วย เมื่อถามถึงว่า 2-3 ปีมานี้ ทำไมสอบไม่ได้ ป้าพูดว่าสงสัยหลวงพ่อจะไม่ให้ไป ป้าบอกก็สอบที่น่าน, เถิน, แม่สอด, อุ้มผาง, โค้ง 100 ศพฯ หลวงพ่อเลยไม่ให้ไป ป้านึกได้ ป้ากราบขอโทษหลวงพ่อครูปูก็ด้วย เรื่องหลวงพ่อรักศิษย์นี้ แม้พวกแข่งรถก็มาบอกเล่าหลวงพ่อ เขาพูดว่าหลวงพ่อชอบแข่งรถ ผมก็งง หลวงพ่อไปชอบตอนไหน หลายครั้งมีคนขับรถแข่งมาแก้บนที่วัด วันเสาร์-อาทิตย์ มากันมาก ขนาดวัดต้องตั้งโรงทานเลี้ยง 5 ธันวาคม 60 ผมไปวัดหลวงพ่อเฒ่า เสก 12.30 น. เอาเหรียญรุ่นมงคลคู่ชีวิต และ “มงคลถาวร” รุ่นกันปืน เอาไปเสก 17 ธันวาคม 60 ที่วัดเสกรุ่นแรงครู ผมนำเหรียญ 2 รุ่นนี้ไปเสก พระรุ่นแรงครู เขาตั้งใจทำดีมาก เจ้าคณะจังหวัดชัยนาทสร้าง นำปัจจัยเพื่อดูแลพระและเณรในจังหวัดชัยนาท พระมาเสกหลายองค์ บางองค์มาก่อนเสก บางองค์หมดฤกษ์แล้วก็ยังเสกต่อ เสกให้นานมาก ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ทางเจ้าคณะจังหวัด มีหนังสือเชิญผมไปเททองเหรียญน้ำมนต์, เต่าอาคม, พระสิวลี และวันเสกก็เชิญให้ไปบอกเล่า ผมบอกกับท่านว่า “หลวงพ่อจะเสกหรือไม่เสก เขาก็ว่าหลวงพ่อเสก ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เสกให้เต็มที่เลย เพื่อสร้างบุญบารมี ในภพต่อ ๆ ไป จนเป็นพระปัจเจกโพธิ์ เสกให้เหมือนเสกเหรียญรุ่น 1-2-3 เลย” (ดูเหมือนท่านจะรับรู้ และอยากฟังความเห็นของผู้เขียนอยู่) วันนั้นตลกโป้งเหน่งก็มา เข้าใจว่าเขาชื่อโป้งเหน่ง ตัวดำ ๆ โกนหัว ล่ำ ๆ รูปร่างคล้ายนักมวย รถแข่งก็มาแก้บนหลายสิบคัน คือ ที่ศิษย์รักหลวงพ่อตรงที่ ท่านช่วยในเรื่องปัจจุบัน ค้าขาย, สอบเลื่อนขั้น, เลื่อนตำแหน่ง, ทวงหนี้, ขอยืมสตางค์, ปวดหัวตัวร้อน, ผีเข้า, เจ้าสิง, ซึ่งเป็นเรื่องของคนในปัจจุบัน น้อยคนนักที่จะโดนยิง แต่ท่านช่วยในเรื่องปัจจุบัน ท่านจึงอยู่ในหัวใจศิษย์เสมอมา และมากขึ้นเรื่อง ๆ (ศิษย์)

เสก 17 ธันวาคม 60 เสกที่วิหารรูปหล่อ พระนั่งปรกกันเต็ม มามากเป็น 10 องค์ คนก็ขึ้นไปเต็ม ผู้เขียนนั่งอยู่ด้านล่าง ข้างฆ้องใหญ่ นั่งด้านหลัง หลวงพ่อเหลือ รัดขอนชะโงก ท่านนั่งนิ่งมาก ผมไม่เคยเจอพระที่นิ่ง ๆ แบบนี้นานแล้ว (เคยเจอหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกระถิน องค์หนึ่งเสกที่วัดหลวงพ่อโม) ผมเห็นพลังจิตของท่านพุ่งขึ้นทางศีรษะตลอดเวลา คลื่นนี้คล้ายคลื่นแอร์ สังเกตให้ดีจะเห็นได้ด้วยตาเปล่า พอเสกเสร็จท่านรดน้ำมนต์ (พรม) ให้ผมไปรับน้ำมนต์เป็นคนแรก และออกมาเป็นคนสุดท้าย ได้ขึ้นไปคุยกับท่าน ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ดูแล้วท่านผอม ๆ คล้ายไม่ค่อยสบาย เลยสวดคาถา”อุณหิสวิชัย” ต่ออายุและขอให้ท่านอยู่ต่อนาน ๆ ท่านอนุโมทนา และให้พรกลับมา ได้ก้มกราบท่านที่ตัก ท่านเมตตาเป่าหัวให้นานมาก เลยเข้าไปกราบครูบา องค์หนึ่งมาไกลจากลำพูน ศิษย์ครูบาขันแก้ว เห็นท่านมาไกล บอกท่านว่า ผมเคยขึ้นกรรมฐานกับครูบาขันแก้ว ดูอาการท่านตกใจ ท่านไม่รู้จะทำอย่างไร วักน้ำมนต์ในบาตร มารดหัวให้ผู้เขียน หลายครั้ง สร้อยประคำของท่านสวยจังเลย ครูบาขันแก้วนี้เคยสร้างเหรียญรุ่นแรกรูปไข่ ผู้เขียนเคยเอามาลองยิง ยิงอย่างไรก็ยิงไม่ถูก (เคยเห็นที่ บก.พระเกจิก็มี) เหรียญก็ราคาไม่แพง เขาเก่ง ศิษย์พี่ครูบาชุ่ม วัดวังมุยก็เก่ง ยิงไม่ถูกเหมือนกัน (เหรียญรุ่น 1) วันนั้นความแตกนักข่าวเกิดจำผู้เขียนได้ ได้แนะนำให้รู้จักกับเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท คราวนี้เองนักข่าวต่าง ๆ มาถ่ายรูปเป็นสิบ ๆ คนเลย ซึ่งปกติผู้เขียนจะไม่แนะนำตัวเองให้ใครรู้จัก เกรงเขาจะมองว่า ศิษย์ของหลวงพ่อ ไอ้อาจารย์เฒ่า คนนี้ รูปร่างเหมือนเสือ เหมือนโจร เกรงจะทำให้หลวงพ่อเสียชื่อเสียงได้

ต่อไปจะขอบันทึกเล่าเรื่องของอภินิหารย์ของเหรียญรุ่น 1 เอาไว้ เป็นเรื่องเก่าแต่ที่นำมาเล่ามันมีเหตุและมีของดีมาฝาก พูดว่า ดี ก็ไม่รู้ว่าดีอย่างไร พูดว่าเก่งก็ไม่รู้ว่าเก่งอย่างไร จะกินเก่งหรือนอนเก่งก็ไม่รู้ (ถ้าเก่งในทางที่ไม่ดี ผู้เขียนก็เก่ง ผู้เขียนจะคุยว่า “เรื่องกินเรื่องเล่นไม่ย่นย่อ เรื่องพายเรื่องถ่อ ผมไม่สู้ใคร” ขอเล่าอภินิหารย์เหรียญรุ่น 1 พอสังเขป สัก 2-3 เรื่อง

เรื่องที่ 1 ต้านปืนลูกซอง นายหอมกรุ่น เป็นคนบ้านหนองแขม อยู่ใกล้ ๆ หนองอีดุก (วัดหนองปลาดุก-วัดอารีทวีวัฒนาราม วัดในความดูแลของพลอากาศเอกทวี จุลทรัพย์ และคุณหญิงอารีย์ สมัยรุ่งเรื่อง) เพื่อนนายหอมกรุ่นชวนนายหอมกรุ่นมากินเหล้า พอเมาได้ที่ได้ชวนนายหอมกรุ่นไปกินเหล้าต่อที่ตลาดสรรคบุรี พอมาถึงวัดป่าลาน (กลางทาง) เพื่อนก็หยุดมอเตอร์ไซค์ ให้นายหอมกรุ่นลง พอลงรถได้ที่ เพื่อนนายหอมกรุ่นก็ชักปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เมดอินบ้านฉาง อุทัยธานี ตราควาย ออกมายิงนายหอมกรุ่น 1 นัด แต่ยิงไม่ออกยิงติด ๆ เลย นายหอมกรุ่นกำลังเมาคิดว่าเพื่อนล้อเล่น เขาต่อว่าเพื่อนว่า “เฮ้ย มึงล้อเล่นด้วยปืนเลยหรือ” เพื่อนก็พูดว่า “ล้อเล่นหรือจริงเดี๋ยวมึงก็รู้” เพื่อนได้ปลดเอาลูกเก่าออกใส่ลูกใหม่เข้าไป แล้วหันมายิงนายหอมกรุ่นอีก 1 นัด ไม่ออกเช่นกัน เสียงดังแชะ พอนายหอมกรุ่นโดนยิงนัดที่ 2 ไม่ออก หายเมาเลยตัดสินใจวิ่งเข้าบ้านคน ให้เขาพาไปแจ้งความที่ สภอ.สรรคบุรี ตำรวจจับเพื่อนของเขาได้ มีคดีความ เข้าใจว่ารับจ้างฆ่า คดีจบแล้วที่คุกชัยนาท แต่ผู้เขียนไม่ควรลงชื่อของเขา เดี๋ยวเขาจะมาชวนผมไปกินเหล้าที่ตลาดเอา ผู้เขียนมีคติประจำใจอยู่ ที่รอดชีวิตมาได้ จนถึงวัยอันควรคือ ผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบผ่าทางตัน ไม่ชอบขวางทางปืน มีปากต้องรักษาฟันให้ได้ คือ ผู้เขียนเป็นคนยิงฟันไม่เข้า ไม่ได้เหนียวอะไร คือ ตรงไหนเขายิงกัน, ฟันกัน ผู้เขียนจะไม่เข้าไป เลยรอดชีวิตมาได้จนถึงวัยอันควร

ในวันนั้นนายหอมกรุ่น คล้องเหรียญสึก ๆ ของหลวงพ่อรุ่นแรก เพียงเหรียญเดียว เหรียญเดียวจริง ๆ มาหนองแขมถามถึงเขาได้ ชื่อหอมกรุ่น ขอดูเหรียญได้ เรื่องนี้เป็นคดีที่ดังมาก

เรื่องที่ 2 เรื่องส่งหลวงพ่อขึ้นสวรรค์ หลวงตาฟื้น อดีตเคยเป็นพระลูกวัด วัดบ้านกร่าง บางระจัน สิงห์บุรี เขตติดต่อกัน วัดไม่ไกลกัน ชอบทำพลุ ตะไล จำหน่ายเป็นงานอดิเรกของพระสมัยก่อน ทำและรับจุดตามวัด วัดกับวัด เลยไม่ว่ากัน ชอบส่งพระไปสวรรค์ มีวิธีการทดลองความขลังของพระที่ไม่เหมือนใคร เมื่อไปติดตั้งพลุ ตะไล ที่วัดไหน ที่เขามีเกจิอาจารย์เก่ง ๆ เขาให้รูปให้เหรียญมา ก็มีวิธีทดลองพระว่าขลังแค่ไหน โดยนำรูปนำเหรียญมาติดที่พลุ ทดลองทำดูว่าพระหลวงปู่ หลวงพ่อองค์ไหน จะขนาดไหน เขาลองมาทั่ว ไม่ปรากฏว่ารูปหรือเหรียญของหลวงพ่อองค์ไหน ในละแวกนั้นต้านพลุของเขาได้ วันหนึ่งเขามาติดตั้งพลุ, ตะไล ที่วัดของหลวงพ่อ หลวงพ่อเมตตามอบเหรียญรุ่นหนึ่งให้มา 1 เหรียญ หลวงตาฟื้นก็นำมาติดกับพลุ พอได้เวลา พลุอันอื่นจุดดังหมด แต่อันที่ติดเหรียญของหลวงพ่อ กลับจุดไม่ติด จุดชนวนจุดติดแล้วดับทำอยู่ 3-4 ครั้ง ก็จุดไม่ติด หลวงตาฟื้นเลยหยิบเหรียญออก คราวนี้จุดติดดังปุ้งสนั่นเลย หลวงตาได้ขอขมากับเหรียญ ภายหลังลาสิขาบทแล้วเล็กทำพลุ ทำตะไล แม้นำเหรียญไปด้วยเวลาจุดพลุ จุดตะไล ก็จะดังไม่ดี บางครั้งก็ไม่ติดเฉย ๆ ต้องนำเหรียญออกมาให้ห่าง หรือให้คนอื่นเป็นคนจุด แม้กำลังจุดอยู่ บอกเล่ากับหลวงพ่อว่า ขออย่าให้จุดติด บางครั้งถึงกับจุดไม่ติดตก 7-9 อัน หลายครั้ง ปัจจุบันเขาเลิกทำพลุ ตะไล แล้ว บ้านอยู่ทางวัดบ้านกร่าง มาทางใต้ของวัดหลวงพ่อ อยู่ใกล้วัดหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี

เรื่องที่ 3 เรื่องเจ้าทรัพย์ปืนลูกซองโหด นายหเว ชื่อเขียนยากจังเลย เขียนเป็นเหว (ทีแรก) ชื่อคนตายเพราะ ๆ มีถมไป ไม่เอามาตั้ง (ขอโทษน๊ะเย้าเล่น) บ้านอยู่โพธิ์งาม (ขี่รถผ่านหน้าวัดหลวงพ่อ ทางตะวันออก 2 กิโลเมตร) มีอาชีพพิเศษ คือ ลักเล็ก, ขโมยน้อย, งัดช่อง, ย่องเบา, ลักวัว, ลักควาย วันนั้นไปลักของของเขาที่บ้านกุ่มโคก อำเภอเดิมบางนางบวช คืนนั้นเดือนมืด ขณะที่นายหเวค้นของมีค่าอยู่ เขาไม่รู้เลยว่ามันมืด เจ้าทรัพย์กำลังเล็งปืนลูกซองยาว มาทางเขาอยู่ ไม่ถึงวา เสียงปืนดังปั้ง บรรจุลูกโดด (ล้มช้างได้) นายหเวถึงกับหัวทิ่มตามแรงของลูกปืน พอได้สติ นายหเวโดดออกทางหน้าต่าง วิ่งเต็มแรง มือคลำดูที่ตัว เสื้อขาดรูโต หมอนกาบมะพร้าว ที่เจ้าทรัพย์ทำลูกปืนยิงเอง ยังติดหลังอยู่ นายหเวเขาตกใจมาก โมโหได้ด่ามารดาคนยิงหลายคำ เขาพูดว่า ดีว่าหลวงพ่อเมตตา ไม่งั้นอายเขาตายเลย เป็นผีไม่มีญาติ เมื่อสอบถามเจ้าทรัพย์ ชื่ออะไร เขาจำได้แม่นเขาบอกว่ามันชื่อยุทธ ถือว่านายยุทธคนนี้เป็นเจ้าทรัพย์ปืนโหด เมื่อถามนายหเวว่า คล้องพระอะไรเขาตอบว่า คล้องเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อกวย เพียงเหรียญเดียว เคยโดนยิงหลายครั้งไม่ออกเลย แต่ไปขโมยของเขา ครั้งนั้นโดนยิงออกด้วย ดีว่าไม่เข้า เขาก็ยังงงอยู่ไม่หาย ว่าเพราะเหตุใด แต่ผู้เขียนจะไม่บอก

เรื่องที่ 4 เรื่องมือปราบปืนโหด (ภาค 1 และภาค 2) ขอเล่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายน๊ะ เสืออ๊อต เป็นคนสรรคบุรี ไม่ค่อยมีคนรู้ประวัติมากนัก เพราะชอบอยู่แต่ในคุก ไม่ที่ชัยนาทก็สิงห์บุรี เขาคล้องเหรียญรุ่น 1 ของหลวงพ่อเหรียญเดียว เคารพหลวงพ่อดุจเทพเจ้า เคยโดยยิงไม่ออกเลย แม้ครั้งเดียว มีอาชีพในทางไม่ดีคือปล้น, ฆ่า (มือปืน) มีชื่อในบัญชีดำของ สภอ.สรรคบุรี ทางหน่วยเหนือสั่งจับตาย ทางตำรวจเขาใช้ภาษาสุภาพว่า วิสามัญฆาตกรรม มือปราบสมัยนั้น เข้าใจว่าเป็นยุคของผู้กองเจิม วันที่เสืออ๊อต จะสิ้นชื่อ ทางตำรวจได้รับแจ้งจากสายว่า เสืออ๊อตมากบดาน แถว ๆ หน้าวัดของหลวงพ่อใกล้ ๆ กับวัดหนองอีดุก คือ หน้าวัดของหลวงพ่อ แต่ก่อนเป็นคลองธรรมชาติกว้าง มีผักหญ้าขึ้นเต็ม และมีการขุดลอกคลองกันมานาน จึงชื่อ ต.บางขุด ตำรวจมือปราบตก 10 คน คัดมาแต่ชนิดเส้นมือขาด เคยปราบเสือร้ายยิงตายมามากทั้งนั้น ตำรวจได้ล้อมเสืออ๊อตไว้ทุกทิศทาง ได้ล้อมยิงเสืออ๊อต จนหมดทางสู้ เสืออ๊อตหนีลงคลองธรรมชาติ (ปัจจุบันคือคลองที่ถนนตัดผ่าน วัดลาดยางมะตอย คลองได้ขุดขึ้นใหม่ เพื่อบังคับน้ำมาทำนา) ตำรวจมีดาบแพร บ้านอยู่เช็คหัวงาน (ผมเคยพบกับเขาได้คุยกันโดยตรง) อีกคนคือ ดาบทวี (จำได้เท่านี้ผู้เขียน) เสืออ๊อตโดยล้อมยิง ได้โผล่หัวยอมแพ้ ยกมือ แต่ทางตำรวจเขาเบื่อคนชื่ออ๊อต เต็มที วันนี้จะไม่ให้เสืออ๊อตเดินขึ้นรถ แต่จะเอาไปแบบเป็นศพหัวหน้าสั่งยิง (ขอสงวนนาม) มีตำรวจเพียง 3 คนที่กล้ายิงเสืออ๊อตในระยะประชิด 1 วาเศษ คือ ดาบทวี, ดาบแพร (อีกคนหนึ่งจำชื่อไม่ได้) ได้บรรจงยิงเสืออ๊อตระยะประชิด 1 วาเศษ ยิงทีละนัดออกบ้างไม่ออกบ้างที่ออกก็ไม่ถูก ไอ้อ๊อตเรียกหลวงพ่อให้ช่วย เสียงปืนดังถึงวัด แต่หลวงพ่อก็มรณภาพไปแล้ว ตำรวจปืนโหดยิงเสืออ๊อตเกือบ 100 นัด หรือมากกว่านั้น เสืออ๊อตภาวนาคาถามงกุฎพระเจ้า และเรียกให้หลวงพ่อช่วยน้ำตาไหลพราก หลวงพ่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตำรวจเห็นว่า ลูกปืนจะหมดแล้ว เลยเปลี่ยนใจ (หลวงพ่อคงดลใจ) ได้ลงไปจับไอ้อ๊อตขึ้นมา ดาบทวีปลดเหรียญหลวงพ่อออก นำไอ้อ๊อตขึ้นรถไปขังที่ สภอ.สรรคบุรี เล่าเรื่องรายงานให้ สวญ ฟัง สวญ สมบูรณ์ สายฝอย ได้ขอเหรียญเอาไป เสืออ๊อตติดคุกที่ชัยนาท ศาลจำคุกตลอดชีวิต ภายหลังลดหย่อนและออกมา ออกมาไม่นานก็ไปติดคุกที่สิงห์บุรี ผู้เขียนต้องกราบขอโทษท่าน สวญ สมบูรณ์ สายฝอย ไว้ในที่นี้ ด้วยความเคารพอย่างสูง วันเกิดเหตุมีพระมุงด้วย ชื่อ อาจารย์แสวง อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองปลาดุก นี่คือตำนานในภาค 1 เรื่องนี้ ถ้าท่านรู้ข้อมูลชัดเจน ท่านจะไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อ จึงเช่าหากันแพงมาก

อีกคนหนึ่งชื่อเสือแอ๊ต คนแรกชื่อ อ๊อต คนที่สองชื่อ แอ๊ต เขาว่าคนชื่อ อ๊อต ชื่อ แอ๊ต นี้จะเกเรสุด ๆ ไปเลย ถ้าเกเรก็จะเกเรสุด ๆ ถ้าจะดีก็ดีแบบสุด ๆ (เฮียแอ๊ต ผมรู้จักเขาได้ดี แต่เขาไม่รู้จักผม บิดาของเขาคือ อาจารย์มนัส โอภากุล เป็นนักโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ เรื่องอาณาจักรแหลมทอง สุวรรณภูมิ ของไทยนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด มาในแต่อดีตท่านเขียนเรื่องพระเครื่องเมืองสุพรรณ ทั้งพระกรุและเกจิอาจารย์เขียนได้ละเอียดจนไม่มีใครกล้าเขียนทับ เกรงว่าจะลอกเขามา มีผู้รู้พูดว่า ถ้าอาจารย์มนัส โอภากุล (บิดา) เป็นขุนเขา เฮีอแอ๊ด คือเหลี่ยมเดียวของขุนเขา คนสุพรรณให้ความเคารพและนับถือท่านอาจารย์มนัสอย่างสูงและภูมิใจในตัวของแอ๊ด คาราบาวมาก เขาเป็นนักร้องในดวงใจของผู้เขียนและภูมิใจในตัวของตูน บอดี้สแลม เขาเป็นคนดีที่ประเทศไทยต้องจารึก เขาทำดีมาก ขอบันทึกไว้ด้วยความเคารพ หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ก็เคยทำแบบนี้ เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระกัน บันทึกไว้ด้วยความเคารพ เขียนออกนอกเรื่องไป ขอโทษ เสือแอ๊ต เป็นคนใกล้ ๆ วัดเขาราวเทียนทอง ขึ้นอยู่กับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท (บ้านสระแก้ว) ขึ้นอยู่กับ สภอ.หันคา เสือแอ๊ต มีอาชีพ ปล้น, ฆ่า, มือปืน เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ สภอ.หันคา มีบัญชีดำ จับตาย ต้องจับตายอย่างเดียว วันหนึ่งสายตำรวจได้รับแจ้งว่า เสือแอ๊ต มากบดานที่บ้านเกิด ใกล้ ๆ หมู่บ้านเขาราวเทียนทอง ตำรวจ สภอ.หันคา ได้นำตำรวจมือปราบ 10 กว่าคนขึ้นรถตำรวจไป 2 คันรถ ไปล้อมยิงเสือแอ๊ต ยิงด้วยปืนสั้นและยาว ออกบ้างไม่ออกบ้าง เสือแอ๊ตยอมแพ้ ยอมให้จับ ตำรวจเกรงว่าจะหนีไปได้ ได้ตีเสือแอ๊ด ด้วยปืนยาว สลบไป ตำรวจกะตีให้ตาย คือตีคอ, ซี่โครง, ขา, แขน, คือตีหักทั้งหมด ตายแล้ว ค้นในตัวไม่เจอพระอะไร เลยเอาเสือแอ๊ตใส่กระสอบป่าน ผูกเชือกไว้ เสือแอ๊ตก่อนสลบ ขณะโดนยิงได้เรียกหลวงพ่อให้ช่วย หลวงพ่อก็ช่วยได้เท่านี้ ชีวิตคนเราเขาว่า “คนลิขิต ไม่เท่าฟ้าลิขิต” เสือแอ๊ตสลบไป พอฟื้นได้แก้มัดเชือกกระสอบป่านออกมาได้ แอ๊ตไม่ตาย ยิงไม่เข้า, ยิงไม่ออก เขาเหน็บเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อซุกซ่อนเอาไว้ และระวังตัวตลอดเวลา เขาไม่ตายกระดูกไม่หัก ไม่แตกเลย เรื่องนี้โด่งดังมาก ตำรวจยิงเขาตก 100 นัด ตีซ้ำให้ตายเป็น 10 กว่าครั้ง กระดูกไม่หักไม่แตกเลย เพียงแค่มีเหรียญรุ่นแรกสึก ๆ ของหลวงพ่อ เพียงเหรียญเดียว เหรียญเดียวเท่านั้น นี่คือตำนาน ของเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อภาค 2 สมัยที่หลวงพ่อมีชีวิต ผู้เขียนได้ถามท่านไว้ว่า หลวงพ่อมีข้อห้ามอะไรหรือไม่ ในวัตถุมงคลของท่าน ท่านพูดว่า ห้ามร้องท้าด่าแม่เขา ให้มายิงกัน, เมาเหล้า ขาดสติไปสู้กับเขาก็ห้าม และที่ห้ามอย่างเด็ดขาดคือหลงลืมพระของท่าน ไม่คล้อง (ท่านช่วยอะไรไม่ได้) และห้ามข้อสุดท้ายคือไม่นับถือจริง นึกจะคล้องก็คล้อง นึกจะไม่คล้องก็ไม่คล้อง วันดีคืนดีเอาไปขายกินซะบ้าง เอาแลกของกับเขาบ้าง ขาดความนับถือไม่คล้องพระของท่าน ท่านก็ช่วยอะไรไม่ได้ เสือแอ๊ตวันดีคืนดีก็เอาเหรียญไปแลกปืนลูกซองทำในอุทัยธานี เพียงกระบอกเดียว แลกกับร้านวรกุลยนต์ แยกวงเวียนตลาดหันคา พอไม่มีเหรียญรุ่นแรก อยู่ต่อมา ตำรวจกองปราบเจอตัวพอดี จับติดกุญแจมือไพล่หลัง ยิงด้วยปืนสั้น ยิงหัวใจ 1 นัด ยิงกรอกปาก 1 นัด คราวนี้ตายแน่นอน ภายหลังเหรียญนี้ มีคนนำพระทองเหลืองหล่อหลวงพ่อปากคลอง (ศุข) ไปแลก ไม่ได้อยู่กับเฮียคีม ร้านวรกุลยนต์แล้ว แอ๊ตตายหลังจากไม่มีพระของหลวงพ่อ เพียง 5 เดือน ตายสมัย นายกทักษิณ ชินวัตร เป็นนายก ประมาณ 15-16 ปีได้ (2560) (กิจชัย เขาราวเทียนทอง ให้ข้อมูลเพิ่มเติม) เขาว่าคนที่มาจากจังหวัดที่มี ส.เสือนำหน้า จังหวัดที่มี ช.ช้างนำหน้า จะเกเรหรือเป็นคนจริง ทหารครูฝึก จะพูดเสมอว่า ช.ช้างหางชี้ ไม่หนีก็ขาด ส.เสือหางวาด ไม่ขาดก็หนี อ.โอ่ง อ.อ่าง ติดตะรางทั้งปี

ต่อไปเป็นข่าวดี สมัยที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่ เหรียญรุ่นแรกของท่านเก่งมาก ราคา 800-1,000-1,200 บาท สวยสุด ๆ ผู้เขียนไม่เคยเจอราคา 1,200, 1,500 (พันสองร้อย, พันห้าร้อย) เงินเดือนผู้เขียน 1,200 บาท (หนึ่งพันสองร้อยบาท) เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเชื้อ ห้วยกรดสมัยนั้น พ.ศ. 2520-2522 เหรียญหลวงพ่อเชื้อ ราคา 2,500 บาท (สองพันห้าร้อย) คือหลวงพ่อเชื้อ ท่านอนุญาตให้หนังสือพระลงประวัติของท่านได้ ผู้เขียนได้พูดคุยกับหลวงพ่อว่า ในเมื่อเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อเก่งมาก ทำไมหลวงพ่อไม่สร้างเหรียญรุ่น 2 , รุ่น 3 แบบเหรียญรุ่นแรก จะได้เก่งเหมือนเหรียญรุ่นแรก ท่านตอบว่า กูไม่ใช่พ่อค้า กูไม่ได้ทำขาย แต่ทำไว้ให้พวกมึงไว้ใช้ป้องกันตัว ท่านพูดต่อว่า แล้วมึงรู้ได้อย่างไรว่า เหรียญรุ่น 1 เก่งกว่ารุ่น 2, รุ่น 3 ผู้เขียนเลยนิ่งอึ้งเลย ท่านพูดต่อว่า เหรียญรุ่น 2, รุ่น 3 กูยิ่งเสกให้มาก รุ่น 3 กูเสกให้พิเศษครอบจักวาฬเลย เสกให้ฝากไว้กับแผ่นดิน ยิ่งเหรียญเขาใหญ่เสกประชันกัน 9 องค์ กูต้องเสกให้มาก 1 เดือนเต็ม ๆ เสกทุกคืน เดี๋ยวจะสู้เขาไม่ได้ อายเขาเหรียญเดิมบาง กูเสกให้ 2 ปี เสกมาก นึกถึงหลวงพ่อแบน องค์อาจารย์ท่านพูดต่อว่า อีกหน่อยพวกมึงนั่นแหละที่จะสร้างเหรียญรุ่น 1 เหมือนของเดิมรุ่นแรกของกู ผมไม่เข้าใจประโยคนี้เลย คนอายุ 20 ปีเศษ แต่ก่อนมักจะทั้งโง่และจน (โดยเฉพาะผู้เขียน) ได้ถามท่านต่ออีก เมื่อพวกผม (วัดและกรรมการวัด) ถ้าเกิดทำพระมาให้หลวงพ่อเสก หลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว จะบอกเล่าท่านอย่างไร ที่ไหน ท่านพูดว่า มึงก็เอาของมาให้นี่ (ท่าน) นี่ (ท่าน) จะเสกให้ ได้ถามท่านว่า ไว้ที่ไหน ท่านพูดว่า กูก็อยู่ที่รูปหล่อ

ผมได้ถามท่านว่า แล้วใครเขาจะเชื่อถือได้ พูดเองเออเอง ท่านพูดต่อว่า งั้นมึงก็นำไปเข้าพิธีเสก ให้ครบสัก 108 องค์ เวลานำเข้าพิธีมึงก็จุดธูป 9 ดอก บอกกูที่รูปหล่อ กูจะไปเสกให้ คำพูดที่พูดกันในวันนั้น มันเลือนรางเหลือเกินไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เกือบทุกครั้งที่สร้างเหรียญของท่านแจกผ้าป่า ผู้เขียนชอบยันต์และแบบของเหรียญรุ่นแรกมาก เหรียญที่เคยสร้าง และเสก 108 องค์ เพิ่งทำได้ 3-4 รุ่น คือ รุ่นแรก (ครั้งแรก) สร้างเหรียญครูบาอินท์ อินโท วัดฟ้าหรั่ง หลวงปู่ครูบาเสกให้ 1 ไตรมาส 3 เดือน และนำเข้าเสก 108 องค์ 7-8 วันคืน ที่วัดหม้อคำตวง พิธีเสกเหรียญหลวงพ่อทันใจ เหรียญรุ่นนี้ เล่นหากัน 1-2 หมื่นบาท, อีกรุ่นหนึ่ง อาจารย์ตั้ว เขาได้รับนิมนต์เสก หลวงพ่อเงิน วัดท่าหลวง และวัดท่าฬ่อ เสก 108 องค์ 2 ครั้ง (108 + 108) รุ่นนี้ก็เล่นหากันถึง 5 พันบาท - ถึง 1 หมื่นบาท แต่เหรียญรุ่นอื่น ๆ เสกปีต่อปี ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไร ประมาณปี 2554-2555 ผู้เขียนได้สร้างเหรียญรุ่น “มงคลถาวร” ขึ้น รูปแบบก็คล้ายรุ่นเสก 216องค์ ใบหน้าและรูปร่างของท่าน ก็แกะไม่สวยเท่าไร แต่เพราะชื่อหรืออย่างไร ไม่แน่ชัด คนนิยมเช่าหามาบูชากันมาก ประสบการณ์ดีมาก ดังทวนลม ได้ขออนุญาตท่านทำ 5,000 เหรียญ (แจกผ้าป่าประมาณ 3,500 เหรียญ ต่อ 1 ครั้ง (ปี) อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจสั่งเพิ่ม โดยบอกเล่า ต่อหลวงพ่อแบบเลื่อนรอย ขาดความเกรงใจ ขอเพิ่มเป็น 8,000 เหรียญ (แปดพัน) พอได้เหรียญที่ 5,000 (ห้าพัน) ตัวตัดชำรุด โค๊ต 2 ตัวที่ตอกหาย (โรงปั้ม ไม่บอกว่า โค๊ตหาย ได้นำโค๊ตไปถอด คือ โค๊ตหนุมาน และโค๊ตมงกุฏพระเจ้า) โรงปั้มบอกอย่างเดียวว่า ตัวตัดชำรุด แตก ผู้เขียนเลยมาวัด มาบอกกล่าวขอเพิ่มอีก 3,000 เหรียญ ได้ทำตัวตัดใหม่ อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ ขอทำเหรียญพิเศษ 2,000 เหรียญ (สองพัน) บอกเล่าแบบขาดความเกรงใจ พอได้เหรียญที่ 8,000 เหรียญ บล๊อคแตกเลยโรงปั้มไม่บอกว่าบล๊อคแตก ได้แต่โทรมาบอกว่า จุดธูปบอกกับหลวงพ่อให้หน่อย กลัวบล๊อคแตก จริง ๆ แตกแล้ว ผู้เขียนได้ไปวัดขอทำเพิ่มเป็นเหรียญพิเศษ อีก 2,000 เหรียญ (สองพัน) โดยไม่รู้ว่าบล๊อคแตก โรงปั้มไปถอดพิมพ์เหรียญขึ้นมาใหม่ (ช๊อต) ใช้ตัวตัดตัวเดิมเป็นเนื้อสำริดเหลือง 1 พันเหรียญ เนื้อสัตตะโลหะ 1 พันเหรียญ เนื้อสำริดตอกโค๊ต 4 ตัว (ของเดิมตอกโค๊ต 2 ตัว) เนื้ออัลปาก้า (สัตตะโลหะ) ตอกโค๊ต 4 ตัว รันนึ่งหมายเลข 1 ถึง 900 เลขไทย เลขต่อจาก 900 ตอกโค๊ตรันนิ่งพิเศษให้อีก 100 เหรียญ คือเลข 999 เหรียญ 2,000 เหรียญนี้ พิเศษอย่างไร ตั้งใจทำให้คนที่เสี่ยงภัยทางลูกปืนพิเศษ เสกเกิน 108 องค์ 5 ปี เสกพิธีใหญ่ 10 กว่าครั้งดังนี้ (เจตนาทำให้ตามที่พูดกับหลวงพ่อ ทำให้เหมือนของเดิมรุ่น 1) เสกพิธีใหญ่เสกหมู่ เฉพาะวัด 5 ผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองสรรค์

(1) เสกวัดหลวงพ่อโม วัดจันทนาราม สรรคบุรี 2 ครั้ง (วัดโคกตโนด มาขอทำพิธีที่วัดหลวงพ่อโม 1 ครั้ง)
(2) เสกที่วัดโคกตโนด (รูปหล่อปั้มหลวงพ่อโม ย้อนยุค ทางวัดจัดเสกที่วัดหลวงพ่อโม 1 ครั้ง วัดโคกตโนด 1 ครั้ง วัดโคกตโนดเคยอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อโม หลวงพ่อโมนี้วัตถุมงคลของท่านเสกแบบ “บู้ล้างพลาญ”
(3) เสกที่วัดหลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ (วัดหลวงพ่อเชื้อ) 1 ครั้ง หลวงพ่อคงนี้เหนียว คงกระพัน และถอนคุณของแน่นอน วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อยู่ใกล้ ๆ กับวัดหลวงพ่อโม (เสก 1 ครั้ง)
(4) เสกที่วัดหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง 1 ครั้ง หลวงพ่อโตองค์นี้ เสกวัตถุมงคลทางปลอดภัย ใครทำอะไรไม่ได้ ไม่ยิง, ไม่ฆ่า, ไม่ฟัน
(5) เสกที่วัดหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม 1 ครั้ง หลวงพ่อปลื้มเสกเหรียญทางมหาอุด ยันต์หลังเหรียญ เขียนว่า “อุดทังอัดโท” หลวงพ่อคง, หลวงพ่อโต, หลวงพ่อปลื้ม เป็นพระรุ่นอาจารย์ของหลวงพ่อ หลวงพ่อโม เป็นศิษย์พี่ของหลวงพ่อ พระ 4-5 องค์นี้ วัตถุมงคลแม้สร้างใหม่ก็ขลัง แบบเดียวกับหลวงพ่อเลย
(6) เสกที่วัดหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว (คังคาว) สรรคบุรี หลวงพ่อเฒ่า เป็นอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เสกวันที่ 5 ธันวาคม 2560
(7) เสกที่วัดหลวงพ่อ ทุกปี ประมาณ 5-6 ครั้ง คือที่วัดของหลวงพ่อ เขาจะเสกวัตถุมงคล เตรียมออกให้บูชา ในวันคล้ายวันมรณภาพ (12 เมษายน ของทุกปี) สร้างก่อน เดือนเมษา ทุก ๆ ปี

ครั้งสุดท้ายเสก 17 ธันวาคม 2560 เสกรุ่น “แรงครู” เจ้าคณะจังหวัดชัยนาทสร้าง เหรียญราคา 200-300 บาท จำหน่ายตอนจองหมดเลยเหรียญทองคำก็จำหน่ายหมด พิธีนี้ดี เหรียญสัตตะโลหะ สร้างเสกให้พิเศษ 4 โค๊ต รันนิ่งหมายเลข เหรียญสัตตะโลหะเข้าพิธีเสก ตามที่กล่าวทุกครั้ง (ยกเหรียญไปเสกหนักมาก) เหรียญสำริดเหลือง 4 โค๊ต เข้าพิธีเสกที่วัดทุกครั้งเหมือนกัน แต่เหรียญ 8,000 เหรียญแรก เข้าพิธีเสกที่วัดเฉย ๆ (ยกไปไม่ไหว) เรื่องโค๊ตภายหลังเมื่อทำเสร็จไปขอโค๊ตคืน จึงรู้ว่ามีการทำโค๊ตหายแล้ว แกะเพิ่มโดยไม่บอก เจ้าของโรงปั้ม เอาเก็บไว้ในริ้นชัก เก็บดีหาไม่เจอ มาเจอตอนขอโค๊ตคืน จึงมีโค๊ตหนุมาน 2 ตัว โค๊ตมงกุฏพระเจ้า 2 ตัว สรุปคือเหรียญ 2 เนื้อ เข้าพิธีตามที่กล่าวมานี้ทำให้เหมือนที่เคยพูดกับหลวงพ่อเอาไว้ เปิดให้ทำบุญดังนี้

1. เหรียญสัตตะโลหะ ให้ทำบุญ 500 บาท สมนาคุณเหรียญเนื้อสำริดเหลือง 4 โค๊ต ให้ 1 เหรียญ คือ ทำบุญ 1 แถม 1
2. เหรียญสัตตะโลหะเลขมงคล 999 ให้ทำบุญ 800 บาท สมนาคุณ เหรียญสำริดเหลือง 4 โค๊ต ให้ 1 เหรียญ ทำบุญ 1 แถม 1 เหรียญ เลขมงคลนี้เหลือน้อยแค่ 50 เหรียญ ช่วยค่าส่ง 50 บาท

ให้ทำบุญได้ที่ท่านอาจารย์ชุมพล ปัญญาธโร เลขาวัดหนองเฒ่า โทร. 08-0000-2680 ปัจจัยสมทบสร้างวิหารหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร หรือจะทำบุญที่ผู้เขียนก็ได้ อ.เฒ่า สุพรรณ (ครูเฒ่า) โทร. 081-943-7968 ปัจจัยเข้าบัญชีมูลนิธิเล่ม 2 ผู้เขียนดูแลอยู่

นำปัจจัยเลี้ยงเด็กกำพร้า, เด็กเรียนดีแต่ยากจน ดูแลทุกเดือน ทั้งเงินและข้าวสาร, เลี้ยงลิง วัดหลวงพ่อเฒ่า, ปล่อยสัตว์ที่จะโดนคนฆ่า (ปลา, กบ, ปู, หอย, เต่า ฯ), ซื้อที่ดินให้วัด (สมทบ)ฯ ระยะหลังนี้ทางวัดและผู้เขียน ได้สร้างวัตถุมงคลในนามหลวงพ่อบ่อยมาก ผู้เขียนกราบขอโทษท่าน มีเหตุผลคือ

(1) วัดหนองเฒ่า ที่ผู้เขียนดูแลอยู่ ยากจนมาก วัตถุมงคลที่ออกมา แต่ละครั้งได้ปัจจัย แต่หลักหมื่นต้น ๆ แทบจะไม่พอทำอะไรได้เลย กุฎิพระน๊อคดาว ต้องใช้ปัจจัยถึง 1 แสนจึงจะสร้างได้
(2) เรื่องของหลวงพ่อใกล้จบ ต้องเอาเรื่องเก่ามาเล่า (วัตถุมงคลที่สร้าง จึงต้องรีบนำเสนอ)
(3) ผู้เขียนใกล้ตายเต็มที่ วัย 60 ปีกว่า ๆ หลายครั้ง นอนอยู่วิญญาณออกจากร่างเฉยเลย อยากช่วยสร้างวัดหนองเฒ่า เป็นครั้งสุดท้าย วัตถุมงคลไหนทำไม่สวย ก็จะรีบแก้ไขทำให้ เช่น รูปหล่อคล้องคอรุ่นแรก ทำชดเชยแบบปั้มให้สวยเหมือนของเดิม 3,333 องค์ (ตอง 3) แหวนนิ้ว ไม่สวยทำชดเชยให้ ทำได้สวยเหมือนของเดิมเลย กำลังสร้างอยู่ (รูปหล่อคล้องคอรุ่นแรก กำลังเสกอยู่) คุณปลัด ก็จะทำให้

ขอให้ท่านที่ทำบุญมา จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ จงปลอดภัยจากอาวุธ ทุกชนิด เหรียญในแบบเดียวกันนี้ ได้สร้างเหรียญพิเศษไว้ 2,000 เหรียญ รุ่น “มงคลคู่ชีวิต” แกะพิมพ์ได้สวยมาก แต่ช่างใช้ใบหน้าของรูปกระดาน 3 แผ่น “เหรียญตอกโค๊ต 60 แปลว่า สร้าง พ.ศ. 2560 เพิ่งเสกได้ 4 ครั้ง ต้องคอยจนกว่าจะเสกได้ 108 องค์ จึงจะเปิดให้บูชา คงต้องคอยถึง 2-3 ปี (แต่อาจเร็วกว่านั้น อาจให้พระชุมพล ตระเวนเข้าพิธีเสกหมู่ให้)

ขอลาอีกที ขอให้ท่านที่ทำบุญมา ขอพรหลวงพ่อ จงอยู่กับท่านหลวงพ่อจะให้พรดังนี้ ขอศิษย์ทั้งหลาย ที่มาทำบุญกันในวันนี้ “จงอย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน และอย่าจนกว่าเขา สาธุ” ขอสมมุติยุติเหรียญย้อนยุครุ่นแรก รุ่ง “มงคลถาวร” เสกพิเศษแต่เพียงนี้....

ปล. เหรียญรุ่น “มงคลคู่ชีวิต” ชื่อคู่ชีวิต คือใช้ยันต์คู่ชีวิตของหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง พิจิตร, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ และหลวงพ่อกวย ก็ใช้ยันต์นี้ กันอาวุธปืนได้เด็ดขาดและแน่นอน

ขอเชิญบูชาวัตถุมงคล
เหรียญย้อนยุค รุ่นแรก รุ่น “มงคลถาวร” เสกพิเศษ
หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

************************************

เหรียญรุ่น “มงคลถาวร” สร้างเลียนแบบเหรียญรุ่นแรก ขนาดเดียวกันใช้ยันต์ มงกุฏพระพุทธเจ้า เต็มหลังเหรียญ สร้าง 1 หมื่นเหรียญ เหรียญเสกพิเศษ 2 พันเหรียญ (รวมกัน 1 หมื่น) เหรียญเสกพิเศษ 12 ครั้ง รวมพระที่เสกเกิน 108 องค์ ตามที่เคยพูดกับหลวงพ่อไว้ เหรียญมี 2 เนื้อ คือ สำริดเหลือง 1,000 องค์, สัตตะโลหะ 1,000 องค์ เสกดังนี้ (1) วัดหลวงพ่อโม 2 ครั้ง (2) วัดโคกตโนด 1 ครั้ง (3) วัดหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง 1 ครั้ง (4) วัดหลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ 1 ครั้ง (5) วัดหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม 1 ครั้ง (6) เสกที่วัดค้างคาว วัดหลวงพ่อเฒ่า 1 ครั้ง (5 ธันวาคม 2560) (7) เสกที่วัดของหลวงพ่อ 5-6 ครั้ง ครั้งสุดท้าย 17 ธันวาคม 2560 เหรียญรุ่นนี้ (2 พันเหรียญ) สร้างไว้ให้กันปืน เป็นกรณีพิเศษ เนื้อสำริดตอก 4 โค๊ต เนื้อสัตตะโลหะ (ขาว) ตอก 4 โค๊ต) รันนิ่งหมายเลข 1-900 เลขที่เกิน 900 ตอก 999 เป็นเลขมงคลให้ (เหรียญ 2 โค๊ต 8,000 เหรียญ เข้าพิธีที่วัด 5 ครั้ง เหรียญหมดแล้ว) เหรียญรุ่นนี้ได้รับความสนใจมาก มีอภินิหารย์จากทหารใต้ หลายคนเล่าไว้ยิงไม่ออก, ออกไม่ถูก, ถูกไม่เข้า, (เหรียญ 2 โค๊ต)

เปิดให้ทำบุญ ดังนี้
(1) เหรียญสัตตะโลหะ (ขาว) ให้ทำบุญ 500 บาท สมนาคุณ เหรียญเนื้อสำริดเหลือง 4 โค๊ต 1 เหรียญ (ทำบุญ 1 แถม 1) ช่วยค่าส่ง 50 บาท เหรียญสัตตะรันนิ่งหมายเลข 001-900
(2) เหรียญสัตตะโลหะ (ขาว) เลข 999 เลขมงคลทำไว้ 100 เหรียญ ให้ทำบุญ 800 บาท (เหรียญ เหลือ 50 เหรียญ) สมนาคุณเหรียญเนื้อสำริดเหลือง 4 โค๊ต ให้ 1 เหรียญ (ทำบุญ 1 แถม 1) ช่วยค่าส่ง 50 บาท

ให้ทำบุญที่วัดหนองเฒ่า อ.ชุมพล ปัญญาธโร ปัจจัยสมทบสร้างวิหารรูปหล่อหลวงพ่อกวย โทร. 080-000-2680 วัดหนองเฒ่า ม. 5 ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย 64140 ไปรษณีย์ลานหอย หรือเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 157-2-85351-5 ออมทรัพย์

หรือจะทำบุญที่ผู้เขียน อ.สมจิตต์ เทียนจัน (เฒ่า สุพรรณ) 56 ม. 5 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ไปรษณีย์ เดิมบางนางบวช ปัจจัยสมทบเข้าบัญชีมูลนิธิเล่ม 2 (ดูแลเด็กกรำพร้า เด็กเรียนดีแต่ยากจน มอบทุนการศึกษา, คนชรา, คนเป็นเอดส์, เลี้ยงลิงวัดหลวงพ่อเฒ่า, ปล่อยสัตว์, สมทบทุนซื้อที่ดินวัดของหลวงพ่อฯ) หมายเลขบัญชี 198-2-15253-0 ธนาคารกสิกรไทย สาขาเดิมบางนางบวช (โทร. 081-943-7968) ประเภทออมทรัพย์, ไปรษณีย์สาขาเดิมบางนางบวช

ขอท่านทั้งหลายที่ทำบุญมา จงปลอดภัยจากอาวุธทุกชนิด
อ.เฒ่า สุพรรณ
(ผู้ให้ประกาศ)

ที่มา: เฒ่า สุพรรณ
(อ.สมจิตต์ เทียนจันทร์)
56 หมู่ 5 บ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ
อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 72120
โทร. 081-943-7368

ไบรท์ สิงห์บุรี

bright singburi

[พื้นที่โฆษณา] ไบรท์ สิงห์บุรี รับเช่า-รับจัดหาพระเครื่อง หลวงพ่อกวย ทันยุค-ย้อนยุคยอดนิยม 098-527-2777

เอสบีฟอนต์

sb-font

จำหน่ายฟอนต์ไทย สไตล์เอสบีฟอนต์ ลิขสิทธิ์การออกแบบโดย Somboon Jaisupa โทร. 094-783-9020

Font was

was font

ฟอนต์วัสโวยวาย จำหน่ายฟอนต์ให้แก่ งานโฆษณาทุกชนิด ทั้ง ป้าย เสื้อสกรีน และ สติกเกอร์ แยกตลาดนางบวช สุพรรณบุรี โทร 082 295 2537