เหรียญหนุมาน ตอนสายล่อฟ้า

ต่อไปผู้เขียนจะขอพูดถึง เหรียญหนุมาน อีกสักหนึ่งครั้ง เหรียญรุ่นนี้เป็นการสร้างเหรียญเป็นครั้งที่ 3 สร้างในงานฝังลูกนิมิต พ.ศ. 2521 สร้างจำนวน 20,000 เหรียญ (สองหมื่นเหรียญ) เนื้ออัลปาก้า ที่มีชุบทองบ้างประมาณ 500 เหรียญ เพื่อมอบให้คนที่ทำบุญบริจาคข้าวสาร 1 กระสอบ (ประมาณ 600 บาทในสมัยนั้น) เหรียญรุ่นนี้ใช้แม่พิมพ์ด้านหน้าตัวเดียวกับเนื้อทองแดงหลังยันต์และใช้ตัวตัดเพียงตัวเดียว จึงพิจารณาขอบตัวตัดด้านข้างแบบเดียวกัน หลวงพ่อเสกเหรียญเนื้อทองแดง และเหรียญพุ่มซึ่งสร้างพร้อมกัน เพื่อปกป้องกันภัยให้กับบุคคลทั่วไป คือ ป้องกันอาวุธปืนสั้น, ปืนยาว, มีด และไม้ฯ ส่วนเหรียญหนุมานนั้นหลวงพ่อเสกให้กันและป้องกันอาวุธสงครามคือ เอ็ม 16, อาร์ก้า, M 79, ระเบิด, ปืนใหญ่ ฯ ท่านตั้งใจเสกให้ทหารไว้กู้ชาติ ท่านตั้งใจจะถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้แจกทหาร (พระครูพิมพ์ วัดสนามชัย เจ้าคณะอำเภอและ พระครูร้อย เดชมา วัดท่ากฤษณา เจ้าคณะจังหวัดไม่ทำหนังสืออัญเชิญ 2 องค์นี้เป็นลูกศิษย์ของท่าน) ในตอนนั้น ภัยสงครามภายในประเทศเริ่มครุกรุ่นอยู่บ้างแล้วที่เขาค้อ เหรียญทองแดงหลังยันต์, เหรียญพุ่ม, รูปถ่ายหลังจีวรเลี่ยมเสร็จในตัว จำหน่ายเพียง 20 บาท แหวนนิ้ว 10 บาท แต่เหรียญหนุมานจำหน่ายถึง 100 บาท ซึ่งแพงมากในสมัยนั้น (กรรมการวัดตั้งราคา กำหนดให้เป็นเหรียญกรรมการ) หลวงพ่อตั้งใจว่าเหรียญอัลปาก้าเหลือจำหน่าย (จอง) เท่าไร จะถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้หมด

ในปี พ.ศ. 2518 มีการปล้นบ้านเศรษฐีในหมู่บ้านก้นวุ้ง อำเภอเดิมบางนางบวช ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดของหลวงพ่อมากนัก โจรที่ปล้นใช้ปืนสงครามคือ เอ็ม 16, อาร์ก้าฯ ได้ยิงบ้านเศรษฐีเสียหาย เพราะอำนาจของปืนสงครามนั้นรุนแรงมาก โจรโดนยิงตายเกือบ 10 คน สืบทราบในภายหลังว่า เป็นทหารแตกแถว จากพลร่มป่าหวายในคอคล้องพระคนละไม่ต่ำกว่า 50 องค์ โดนตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช, สภ. ทุ่งคลี ยิงตาย เพราะหลงทางในป่าอ้อย และมืด (กลางคืน) รถจิ๊บโดนยิงยางแตก ต้องหนีคนละทิศคนละทาง หลงทางไม่รู้จะหนีไปทางไหน เจ้าของบ้าน คือ เศรษฐีโดนยิงไม่ออกมีแหวนแขนหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา 2 วง ส่วนภรรยาโดนยิงตาย ศพโจรบางคนก็เผาข้าง ๆ ทาง หลายคนตำรวจเอาขึ้นรถ มาเผาที่วัดวุ้งสุทธาวาส โรงเรียนที่ผู้เขียนสอนอยู่ ผู้เขียนเป็นคนปลดพระออกจากคอศพ เอามาไว้เป็นที่ระลึก และบันทึกเอาไว้ (ภายหลังมีคนมาขอเอาไปจนหมด) เรื่องความแรงของอำนาจปืนสงครามนี้ ผู้เขียนได้นำมาเล่าให้หลวงพ่อฟัง ท่านพูดว่า “กูรู้” ผมก็ไม่เข้าใจว่าท่านรู้ได้อย่างไร ก่อนเสกเหรียญ พ.ศ. 2521 ได้เล่าหลายครั้ง

เมื่อเสกเหรียญ (ใช้เวลาเสกเกือบ 1 ปี) และจำหน่ายออกมามีการทดลองยิง ปรากฏว่าเหรียญหลังยันต์ยิงไม่ออก ดังกว่าเขา ดังมาก เหรียญพุ่ม เขาไม่ลองยิงเขาหาว่าเป็นเหรียญแจกแม่ครัว เขาไม่ทดลองยิงเฉย ๆ อยู่ต่อมารูปถ่ายหลังจีวร ซึ่งคล้องคอได้เลย วัยรุ่นนิยมใช้มาก เพราะขึ้นคอ (ไม่หนัก) ดังที่สุด แต่เหรียญหนุมาน ซึ่งมีราคาแพง เมื่อทดลองยิงก็ออก แต่ไม่ถูก คล้องอยู่ในคอ เมื่อโดนยิงก็ออกแต่ไม่ถูกไม่รู้ว่า ฟลุค หรือเปล่า เมื่อมีคนมาเล่าให้หลวงพ่อฟัง ถึงเรื่องเหรียญหนุมานยิงออกแต่ไม่ถูก หลวงพ่อท่านหัวร่อ “หึหึ” แทบจะไม่มีใครรู้เลยว่า การเสกวัตถุมงคลเพื่อต้านอาวุธสงครามนั้น ต้องให้ออกแต่ไม่ให้ถูก เพราะอำนาจของปืนสงครามนั้นรุ่นแรงมาก (ไม่ต้องอาวุธสงคราม แค่ .38 เอามาวางแนบกับหูตรงทัดดอกไม้ แล้วลองเหนี่ยวไกปืนดูก็ได้ แล้วจะรู้ว่าอำนาจของปืนนั้นรุนแรงมาก)

นอกจากหลวงพ่อจะเสกทางต้านอาวุธสงครามแล้ว ท่านยังเสกทางสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา คนชะตาขาดจะต้องตายก่อนวัยอันควร ถ้าบูชาเหรียญหนุมานอยู่ ก็จะสามารถมีอายุอยู่ต่อได้ บางคนนอนป่วยอยู่ (แก่มาก) คล้องเหรียญอยู่ ถ้าไม่ปลดเหรียญออก ก็ไม่ขาดใจ (ตาย) ง่าย ๆ เขาว่ายมทูตเกรงใจท่าน เกรงใจรูปท่าน (รูปหลังจีวรก็คล้ายกัน)

ต่อไปผู้เขียนจะขอเล่าเพื่อบันทึกและยืนยันว่า เหรียญหนุมานนี้ยื้อชีวิตศิษย์ได้จริง เจ้าของเรื่องเป็นคนพอมีฐานะ เคยสมัครนายกเล็ก, ทำไร่อ้อย, ทำสวนมะขามหวานฯ เขาชื่อบรรพต แจ้งสมบูรณ์ บ้านเลขที่ 212 หมู่ 4 ตำบลลำเปียก อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา 30250

คุณบรรพต เขาคล้องเหรียญหนุมาน ครั้งแรกคล้องเหรียญเดียว คุณบรรพต เขามีพรสวรรค์พิเศษ คือ เขาขอพรกับเหรียญหนุมานเวลานอน เวลาสวดมนต์ ขอพรกับหลวงพ่อ ขอพรกับรูปของหลวงพ่อ ขอพรว่า ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้หลวงพ่อดลจิตดลใจหรือฝันเป็นรางบอกเหตุด้วย ลักษณะของคุณบรรพต เป็นคนดวงไม่ดีนักคล้าย ๆ จะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนชะตาขาด อาจตายโหงหรืออยู่ได้ไม่นาน เขาจึงหาเหรียญหนุมานไว้คล้องคอ อาราธนาคุ้มภัย วันหนึ่งเขากำลังซักผ้าอยู่ ฝนฟ้าคะนอง และอากาศแปรปรวน มืดครึ้ม เข้าใจว่าเริ่มมืดเขาเห็นยมทูตมายืนอยู่ไม่ไกลนัก โพกผ้าแดง นุ่งผ้าแดง (นุ่งแบบผ้าเตี่ยว) ไม่สวมเสื้อ พอเขาเห็น (เขาเห็นขณะฟ้าแลบ) เขารู้สึกตกใจคล้ายขวัญเสีย จิตใจเหลือนิ๊ดเดียว แบบคนจะหมดสติ เขาเลยหยิบเหรียญหนุมานของหลวงพ่อ มาอาราธนาบอกเล่า เขาพูดกับหลวงพ่อว่า เขาคงใกล้จะตายแล้ว เพราะยมทูตมาเตือน แต่ยังไม่ได้บวชให้หลวงพ่อและแม่เลย อย่างไรถ้าจะตายก็ขอชีวิตเอาไว้ก่อนให้ได้บวชเสียก่อน พอบอกเล่าได้ไม่นาน ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ที่กะละมังซักผ้า ไฟฟ้าได้วิ่งขึ้นมาตามขาถึงเข่า แล้วมาหยุดอยู่ที่เหรียญหนุมาน เมื่อดูที่เหรียญปรากฏว่า พลาสติกร้าวเล็กน้อย ด้วยแรงศรัทธา (กลัวตาย) เขาเดินทางมาวัด มากราบรูปหล่อหลวงพ่อ มีดอกไม้ธูปเทียนน้ำขวดบุหรี่ฯ เอามาถวายหลวงพ่อ และพยายามหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อชนิดอื่น ๆ เอาไว้ เขามาวัดประมาณ พ.ศ. 2530 กว่า (33-35) เขามาเรื่อย ๆ แต่ของหลวงพ่อก็มีอยู่ที่ศิษย์ เขาก็หวงที่ต้องมาเรื่อย ๆ เพราะว่า (ผมไม่อยากเล่า) เกรงว่าท่านจะไม่เชื่อ เหมือนเราดูหนังเรื่องแม่นาคพระโขนง ตอนแม่นาคยื่นมือไปเก็บลูกมะนาวเลย อยู่ต่อมาเขายังไม่ได้บวช พอเวลาผ่านไปไม่นาน เขาโดนฟ้าผ่าอีก ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 บางครั้งสายสร้อยขาด คาคอเลย พลาสติกเลี่ยมพระแตกเลย พอโดนผ่าครั้งที่ 3 เขาอ่านเจอในหนังสือโฆษณาจำหน่ายพระ เหรียญรุ่นแรกของพลวงพ่อ 5,000 บาท (ห้าพันบาท) ที่อิมพีเรียล สำโรง ประมาณ พ.ศ. 2535

เขาไม่รู้ว่าสำโรง สมุทรปราการ ไปทางไหน รู้จักแต่ต้นสำโรงพอเช่าบูชามาก็เลี่ยมขึ้นคอ คล้องคู่กับเหรียญหนุมาน คิดว่าคราวนี้คงจะแคล้วคลาดปลอดภัย ที่ไหนได้เขาโดนฟ้าผ่าอีก 2 ครั้ง ติด ๆ กัน คราวนี้บวชเลย 1 พรรษา ปัจจุบันไม่โดนฟ้าผ่าแล้ว ผ่านมาหลายปีแล้ว ฉายาของเขาคือ“บรรพต สายล่อฟ้า”

อยู่ต่อมาเพื่อนมีภัย ไม่มีอะไรให้เพื่อนยืมใช้ เลยให้ขอยืมเหรียญหนุมานไปใช้ เพื่อนเขาชะตาคล้าย ๆ จะขาดแต่ลอดมาได้ทุกครั้ง เขาไม่ยอมเล่าว่าเพื่อนเขาประกอบอาชีพอะไร เพื่อนเขาเผลอเล่าว่าแม่ของเขาไม่ค่อยสบาย วันหนึ่งไปเยี่ยมแม่ (คล้องเหรียญหนุมานไปด้วย) แม่เขาเห็นเขา (ลูก) เดินมาแต่ไกล มีลิงสีขาวขี่คอมาด้วย ขาวมีประกาย ใส่เสื้อผ้าแบบหนุมาน พอเดินมาใกล้ลิงนั้นจึงหายไป (เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งกับลูกชายผู้เขียน เขาคล้องรูปหล่อหนุมาน ผู้เขียนเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่า เหรียญหนุมานก็มีองค์เทพหนุมานอยู่ เดิมคิดว่าเป็นแค่ยันต์หนุมานเฉย ๆ ) ตอนหลังคุณบรรพต จึงได้พยายามไปขอเหรียญคืน พยายามอยู่หลายสิบครั้ง

ต่อไปขอเล่าเหมาเรื่องของคุณบรรพตต่อก็แล้วกัน เขาได้เดินทางมาวัดมาหาบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ได้จากศิษย์เก่า ๆ ที่มีอายุแล้ว แบ่งให้ เขาได้มีดหมอยุคแรกเล่มโตขนาดมีดปาดตาล (มีดเหน็บ) เขาได้ พระปรกโพธิ์ 9 ใบ จากลุงลอน (ลุงลอน, ลุงทอด, ผู้ใหญ่ดำเนิน เพชรดำ ได้จากหลวงพ่อไว้คนละ 1 องค์) เขาได้ตะกรุดโทนมา 1 ดอก จะขอเล่าเรื่องตะกรุดก่อน คุณบรรพตไม่แน่ใจว่า ตะกรุดของหลวงพ่อจะแท้หรือไม่ เขาจึงนำไปทดลองยิงด้วยปืน ยิงระยะประชิดไม่ถึง 1 วา ปรากฏว่า ออก เสียงปืนดังสนั่นแต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ปรากฏว่าตะกรุดหายไป แต่สายตะกรุดยังอยู่ หัวและท้ายของเชือกผูกไว้เป็นปมใหญ่ ตะกรุดไม่สามารถหลุดออกไปได้แต่ตะกรุดหายไปเฉย ๆ เขาเสียใจมาก เรื่องการทดลองพระหรือวัตถุมงคลนี้ ผู้เขียนเคยทดลองมาค่อนข้างมาก อาจมากเป็นที่ 1 ในประเทศหรือในโลกก็ได้ พระที่ยิงออกและเสียมีมากประมาณครึ่งกะละมัง ซักผ้า (กะละมังขนาดใหญ่) เคยทดลองยิงพระรูปหล่อรุ่นแรกคล้องคอหลวงพ่อกวย โดยเอายัดไว้ที่ต้นกล้วย ผลคือยิงออกดังปั้ง ลูกปืนไม่ถูกต้นกล้วย ไม่ถูกพระแต่พระหาย อีกครั้งที่เป็นแบบเดียวกันคือรูปหล่อหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ รุ่นคอตึง เช่ามา 2,500 บาท (สองพันห้าร้อยบาท ปี 30 กว่า ๆ)

อีกเรื่องหนึ่งเป็นอภินิหารของพระปรกโพธิ์ 9 ใบ (พระปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ปัจจุบันมีปลอม) เล่าเรื่องคุณบรรพตต่อ เขาคล้องปรกโพธิ์ 9 ใบ องค์เดียว ครั้งหนึ่ง เขาขับรถยนต์ไปธุระกลางดึก ดึกมากเขาง่วงแล้วเกิดขับรถหลับใน รถไม่ได้ติดแอร์ เปิดกระจกข้าง เขาหลับในไปนาน จนกระทั่งสวนกับรถ 10 ล้อ ลมจากรถ 10 ล้อ พัดเข้ามาในรถทำให้เขาตื่น เขามาดูเข็มวัดระยะทางปรากฏว่า เขาหลับในเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะทางที่ไกลมาก น่าตาย แต่ถ้าคิดเป็นเวลาน่าจะประมาณ 3 นาที (ผู้เขียนขี่รถ อัตราเฉลี่ย 1 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร รถกระบะ) เขาว่าพระปรกโพธิ์นี่คุ้มครองดีมาก

อีกเรื่องหนึ่งขอเหมาเรื่องคุณบรรพตต่อ เขาได้บูชามีดหมอเล่มโต ด้ามไม้ฝักไม้ ที่เรียกว่ามีดควาญช้าง เรื่องมีดนี้ก็โต้เถียงกันมาก มีทนายคเชนทร์ มาสมาน และคุณนเรศ นาคสมบูรณ์ ขอให้ผมเขียนชี้แจง เขาว่าอาจารย์ทรง เคยบวชพระ อยู่กับหลวงพ่อ ตก 10 พรรษา คือประมาณ พ.ศ. 2505 - 2515 เขาว่ามีดหมอนี้ อาจารย์ทรง (ปัจจุบัน เป็นฆราวาส) เป็นคนตีและตอกลายมีดทั้งหมด อันนี้ไม่จริง เพราะมีดหมอหลวงพ่อ เคยตีในวัด ตั้งราชวัตร ฉัตรธง มีเตา ตั้งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ บริเวณที่ตั้งศาลาในปัจจุบัน หลวงพ่อทำมีดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ พ.ศ. 2484 พ่อแก่อุ้ย, ลุงคลี่, เขยพ่อแก่อุ้ย, ช่างเตือน, ลุงรินทร์ เคยช่วยตีปัจจุบัน ยังมีชีวิตอยู่ บ้านเดิมอยู่ใกล้บ้านหมอเฉลียว เดชมา ช่างเตือนเป็นคนจีน ตัวโต ตอกลายนาคสมพงษ์ไม่เป็น มีดเล่มของคุณบัญฑิต เก่งทอง ช่างเตือนเป็นคนตี ภายหลังอาจารย์ทรงมาบวชได้ตอกลายเองบ้าง สั่งจากช่างพยุหะบ้าง พ่อแก่อุ้ยกับช่างเตือนก็ตีเอามาส่ง ไม่ต้องบรรจุด้าม ราคาเล่มละ 180 บาท (หนึ่งร้อยแปดสิบบาท) ด้ามฝักเลี่ยมเสร็จ ผู้เขียนเคยพบใบราคาคิดสตางค์) ลวดลายที่อาจารย์ทรงออกแบบคือ ลายเพชรพญาธร นุ่งสโล่ง (ชนิดไม่นุ่งสโล่งหลวงพ่อออกแบบเอง อักขระเลขยันต์อ่านไม่เป็นพระคาถา เพราะท่านซ่อนวิชาไว้) ส่วนชนิดที่เลี่ยมอลูมิเนียมธรรมดา (ของเดิมเลี่ยมอลูมิเนียมปลอกฝิ่น) ใบมีด กึ่งขาวกึ่งดำ ริ้นนาคยาวแลบออกมา อาจารย์ทรงสั่งทำเอง ตอนเป็นเจ้าอาวาสวัดแหลมคาง เขาเสกเอง (ชนิดใบขาว ช่างพยุหะ แต่เลี่ยมอลูมิเนียมก็มี) เขาก็เป็นคนดีมีบุญคุณคนหนึ่ง เขาสร้างโบสถ์ วัดแหลมคางได้ 1 หลัง เป็นอาจารย์สักด้วย ทำพระผงด้วย ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ (2562) หลังจาก อาจารย์ทรงไปจากวัดหลวงพ่อไปเป็นเจ้าอาวาสวัดแหลมคาง (ประมาณ พ.ศ. 2515) หลวงพ่อก็สั่งมีดจากช่างพยุหะ มีดหมอปากการุ่นแรก พ.ศ. 2515 ของหลวงพ่อเล่มใหญ่ ตอกคาถา หลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว มีราคาแพงมาก พ่อแก่อุ้ย, ลุงคลี่ ยิ้มจันทร์ ก็ยังตีมีดส่งอยู่

ต่อไปจะขอเล่าอภินิหารของมีดหมอ ของคุณบรรพต เขาพกพาไปเวลาเดินทางไกล หรือเข้าป่า เพราะมีดใหญ่และยาวถึง 1 ฟุตกว่า วันหนึ่งเข้าไปในป่า เข้าใจว่าล่าสัตว์ ได้ตั้งเต้นท์นอนที่รถกระบะ ก่อนนอนก็สวดมนต์อาราธนามีดหมอคุ้มครองตัว หลับไปตกดึกก็ไม่ตื่น ตื่นเช้าขึ้นมา มีโขลงช้างป่ามาเดินรอบ ๆ เต้นท์และรถ เดินระยะประชิดเป็นวงกลม แต่ไม่เข้ามาทำอะไร ก็ขอยุติเรื่องของคุณบรรพตแต่เท่านี้ เขาเคยสมัครนายกเล็ก (นายก อบต.) 2 ครั้ง ไม่ยอมเสียเงินจ้างใครลงคะแนน บอกให้หลวงพ่อช่วย ส่วนคู่แข่งใช้เงินจ้างค่าหัวคนละ 1,000 บาท (หนึ่งพันบาท) ผลคือคุณบรรพตแพ้เขาทั้ง 2 ครั้ง สมัยเลือกตั้งเขาบูชาพระปรกโพธิ์ 9 ใบ โดนลอบยิงหลายครั้ง ครั้งสำคัญ (ลูกน้องคู่แข่งเล่าให้ฟัง) คนร้ายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม (2 ชุด) ชุดแรกเตรียมรถกระบะและปืนสงคราม ชุดที่ 2 ขี่มอเตอร์ไซด์มาที่จุดสังหาร มาหารถกระบะไม่เจอ ครั้งที่ 2 หารถกระบะเจอ แต่หาปืนเอ็ม 16 ไม่เจอ นับว่าแปลกมาก เขามากกราบหลวงพ่อ และเลยมาพบผม มากับคุณครูอธิป จันทรวิวัฒน์

ความจริงตั้งใจจะเขียนเรื่องเหรียญหนุมาน เขียนเรื่อยเฉื่อยจะขอเล่าถึงอภินิหารของเหรียญรุ่นนี้สัก 1 เรื่อง เสือชู สว่างศรี คนหนองหิน ตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีศักดิ์เป็นหลานของผู้เขียน มีอาชีพเป็นฮิตแมน (มือปืน) ออกจากคุกมา ผู้คุมแกล้งทำเป็นลืมกุญแจที่เก็บของ เขาเลยต้องเสียเหรียญรุ่น 2 ซึ่งเป็นเหรียญคู่ชีวิตไป เขามาหาผู้เขียนขอพระเอาไปใช้ ผมเลยให้เหรียญหนุมานเขาไป เขาไปทำงานกับเพื่อน 2 คน เพื่อนเป็นคนขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกจากคุกมา ขอพระผู้เขียนเหมือนกัน เลยให้เหรียญทองแดงหลังยันต์ คือ รู้ว่ามันจะไปทำงาน พอไปทำงานเสร็จ โดนคนว่าจ้างหักหลัง กลัวความแตก จ้างมือปืนอีกชุดหนึ่งฆ่าเสือชูและเพื่อน เสือชูและเพื่อนโดนยิงด้วยปืน 3-4 กระบอก ยิงทั้งข้างหน้าข้างหลัง เพื่อนชื่อโตเป็นคนขับโดนยิงไม่ออกเลยแม้นิดเดียว แต่เสือชูโดนยิงออก เสื้อผ้าขาด โดนเป็น 10 นัด รถมอเตอร์ไซด์โดนยิงพังและชนิดต้องวิ่งหนี เข้าป่าอ้อยเอาตัวรอด เสือชูเหนื่อยแทบขาดใจ โมโหเอาเหรียญมาคืน ขอเปลี่ยนผู้เขียนเลยให้ตะกรุดไปแทน เสือชูนี้หลวงพ่อรัก ขนาดติดคุกอยู่ หลวงพ่อยังถอดจิตไปเยี่ยมถึง 2 ครั้ง สมัยบวชเคยนอนกับหมาของหลวงพ่อ คือไอ้เจ็ก นอนมุ้งเดียวกัน ไอ้เจ็กขอมานอนด้วย

เรื่องเหรียญหนุมานนี้ หลวงพ่อเสกไว้ให้นักรบ เอาไว้กู้ชาติโดยเฉพาะทหาร ตำรวจ อส. ฯ อาวุธปืนชนิดร้ายแรงจะยิงออก แต่ไม่ถูก ท่านเคยพูดกับผู้เขียนว่า ปืน เอ็ม 16, อาร์ก้า ลูกระเบิด อำนาจมันแรงมาก ใช้คาถาอุดอยู่ยาก ต้องใช้ทางแคล้วคลาด จึงจะต้านได้ ภายหลังทางวัดก็สร้างย้อนยุคออกมาอีกหลายครั้ง ครั้งที่ดังที่สุด มีการทดลองยิงกันคือ รุ่นสร้างศาลาทรงไทยและรุ่นฉลองศาลาทรงไทย พ.ศ. 2553 (ถ้าจำไม่ผิด พ.ศ. นี้) วัตถุมงคลใน พ.ศ. นี้ (ฉลองศาลาทรงไทย) อีกรุ่นหนึ่งก็ทำแบบย้อนยุค ออกที่วัดหนองตาแก้ว ปลุกเสกโดยพระครูพิมพ์ วัดสนามชัย เขียนว่าที่ระลึกงานฝังลูกนิมิต (ความจริง ยังไม่ได้ฝัง สร้างไว้ก่อน) ตำรวจ สน.ทุ่งคลี ทดลองยิง หมดโม่ 6 นัด ไม่ออกเลย แต่เหรียญถูกเหมาเอาไปหมดวัดแล้ว วัดหนองตาแก้วนี้ได้หล่อรูปเหมือนของหลวงพ่อเท่าองค์จริง วันที่ 16 เมษายน 2557 ผู้เขียนได้นำปัจจัยผ้าป่า 12 เมษายน 2557 ที่ตกค้าง ไปบูชาทองเหลืองหล่อหลายสิบกิโล ซื้อที่ให้อีกหลายไร่ บุญกุศลอุทิศแบ่ง ๆ กัน สำหรับผู้ที่ร่วมทอดผ้าป่า 12 เมษายน 2557 (วันมรณภาพของหลวงพ่อ) หลวงพ่อเคยมาจำพรรษาที่วัดหนองตาแก้ว 1 พรรษา ตอนมาเรียนวิปัสสนา กับหลวงพ่อสี วัดพระปรางค์ ได้ปลูกต้นสมอไว้ 1 ต้น (ยังอยู่) และขุดสระ (ขยายสระให้ใหญ่) เอาไว้ 1 สระ ปี 2558

สำหรับนักรบ (ทหาร ควรหาวัตถุมงคลที่หลวงพ่อ หลวงปู่ท่านเสกไว้ให้ทหารตำรวจ เช่น หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ก็สร้างเหรียญไว้ให้ทหาร, ตำรวจ ครูบาเจ้าเกษมก็เคยสร้าง, หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ ก็เคยสร้าง, หลวงพ่ออบ วัดกำแก้วก็เคยสร้าง, เจ้าคุณนร ก็เคยสร้าง (เหรียญสังฆาฏิ) ขนาดยืนปลุกเสกให้ฯ ปัจจุบันเหรียญสังฆาฏิเจ้าคุณนร เหรียญแม่ทัพภาคหลวงพ่อแดงก็ไม่แพง เหรียญหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน หลังโล่ห์ ตำรวจก็ไม่แพง (หลวงพ่อเอีย อายุเท่าหลวงพ่อ เกิดปีเดียวกัน มาเรียนวิชากับหลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า ตอนเป็นสามเณร มาพร้อม ๆ กับหลวงพ่อ พ.ศ. 2466 ปีหลวงพ่อปากคลองสร้างเหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อเอียและหลวงพ่ออายุประมาณ 19 ปี) แต่หลวงพ่อเอียมรณภาพก่อนหลวงพ่อ 1 ปี ถ้าผมเป็นทหาร (นักรบ) ผมจะคล้องเหรียญที่หลวงพ่อต่าง ๆ เสกไว้ให้ทหาร ตำรวจองค์ละ 1 เหรียญก็ยังดี แต่เหรียญหนุมานของหลวงพ่อแพงมากแล้ว ก็จะบูชารุ่น ปี 53 ฉลองศาลาทรงไทย หรือรุ่นฝังลูกนิมิตวัดหนองตากแก้วแทนก็ยังดี เหรียญหนุมานนี้ ผู้เขียนเคยสร้างไว้ 1 รุ่น แต่ด้านหน้าเป็นแบบเหรียญรุ่นแรก ด้านหลังมีทั้งยันต์ มงกุฏพระพุทธเจ้าและยันต์รูปหนุมานแนวหน้าทัพ 1 เหรียญโดยมากส่งไปแจกผ้าป่าที่อังกฤษค่ายมวย สิงห์นรชัย พี่สมนึก ไทรแก้วเรือง เป็นครูฝึก อีกส่วนแจกไปภาคใต้ นราธิวาส ให้ทหารและ อส. ประสบการณ์ดีมาก เสกพิธีวัดท่าหลวงและวัดท่าฬ่อ จังหวัดพิจิตร พิธีเสกพระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อาจารย์ตั้ว (โอภาส) นำเข้าพิธีให้เสก 108 องค์ 2 ครั้ง รวบ 216 องค์ ด้านใต้เหรียญเขียนว่า เสก 216 องค์ สำหรับทหารที่จะไปภาคใต้ ควรหาเหรียญหนุมานของท่านเอาไว้ เดินทางมาวัด มาบูชาเอาไปเถิดดี ของใหม่ก็ดี บอกท่านที่รูปหล่อด้วยว่า จะไปรบภาคใต้ เอาเหรียญให้ท่านเสกอีกครั้ง ผมแนะนำไปหลายคน ยังไม่มีใครตายคาเหรียญเลย แม้จะเป็นเหรียญใหม่ก็ตามก็ขอสมมุติยุติเรื่องเหรียญแห่งนักรบ แต่เพียงเท่านี้

ปล. เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 ผู้เขียนเดินทางไปหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่อเท่าองค์จริง และร่วมเข้าพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลหลวงพ่อกวย เพื่อจำหน่ายในงานฝังลูกนิมิต มีหลวงพ่อที่มาเสกล้วนแต่ตัวจริง แทบทั้งหมด เช่น หลวงพ่อรวย, หลวงพ่อพูน, หลวงพ่อเพิ่ม 3 องค์นี้อยู่อยุธยา, หลวงพ่อสมบุญ วัดลำพันบอง เก่งตัวจริงของสุพรรณ (ทำสิงห์งาแกะและรูปท่านงาแกะสกรีนสวยมาก), งานหล่อรูปเหมือน วัดหนองตาแก้ว

อีกองค์คือหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี, ศิษย์ของหลวงพ่อก็มีหลวงพ่อพร้า, หลวงพ่อเกาะฯ ผู้เขียนมองไม่เห็นหลวงพ่อสมบุญ ท่านนั่งอยู่หน้าโบสถ์ ผู้เขียนนั่งติด ๆ กับหลวงพ่อเพี้ยน และองค์อื่น ๆ 2-3 องค์ มีหลวงพ่อเพี้ยนเพียงองค์เดียวที่นั่งนิ่งแบบถอดจิตเสก ไม่ขยับตัวตลอดการเสก 2 ชั่วโมง แม้ตอนดับเทียนชัย ยังต้องเข้าไปสะกิดถึง 3 ครั้ง จึงจะรู้เรื่องวัตถุมงคลชุดนี้ให้ติดต่อวัดหนองตาแก้วดู เหรียญหนุมานย้อนยุคก็มี ติดต่ออาจารย์อารมย์ เจ้าอาวาส โทร. 084-814-7185 ผมว่าดี เพราะหลวงพ่อสมบุญ เสกด้วย ในวันที่ 19 เมษายน 2557 ผู้เขียนได้รับเกียรติให้ไปดูแลการปลุกเสกพระบนยอดเขาน้อย อำเภอเดิมบางนางบวช และได้รับเกียรติให้ดูแลหลวงพ่อสมบุญด้วย ท่านใจดีพูดจาดี ผมนำวัตถุมงคลไปให้ท่านเสกด้วย มีไม้คมแฝก, มีดหมอ, แหวนนิ้วทองคำ, แหวนนิ้วหยก ฯ ท่านสามารถแยกได้หมดเลยว่า อันไหนเสกแล้ว อันไหนยังไม่ได้เสก โดยเฉพาะแหวนหยกการจารก็จารไม่เข้า ไม่มีตำหนิ แต่ท่านแยกออกได้หมด นับว่าจิตท่านดีมาก ในวันนั้นได้เอาผ้าจีวรทำจากไหม (เป็นผ้าคลุมไหล่) ของหลวงพ่อกวย ส.ส. ประยูร ปัณณดิษฐ์ ถวายให้ หลวงพ่อเสกไว้ตก 20 ปีเศษ ท่านให้ผมเอาไว้ ผมได้เข้าพิธีเสก 108 องค์อีกหลายพิธี ผ้านี้ไม่เคยตัดแบ่งให้ใคร พอท่านจับผ้า ท่านบอกผ้านี้ดีมาก เป็นของอาจารย์ของครูเฒ่าหรือผมบอกครับ จะเอาไว้ทำวัตถุมงคลสร้างวัดถ้าได้บวช แล้วผู้เขียนก็หยิบสายสิญจน์ก้อนโต (พอสมควร) ส่งให้ท่านเสกให้ ท่านบอกอาจารย์ครูเฒ่าเขาเสกไว้ดีมากแล้ว สายสิญจน์ม้วนนี้ เดิมหลวงพ่อได้เสกและผูกข้อมือของท่านเอง ก่อนมรณภาพ เข้าใจว่ากันภูติพราย ภูติผี, กันกระทำ, กันยมทูต, กันจิตเฝือ ฯ ไอ้ฮ้งศิษย์หลวงพ่อได้มาขอท่าน ท่านพูดว่าไว้ให้ท่านตายก่อน พอท่านมรณภาพไม่มีใครเห็นสายสิญจน์ที่ข้อมือ แต่ไอ้ฮ้งมาถึงก็แกะเอาไป คนที่ไม่ได้เสียดายกันมาก แต่ผมแสบกว่านั้น ได้ขอท่านยกม้วนเอามาเลย ไม่เคยพูดและแบ่งให้ใคร เพิ่งคิดแบ่ง ใครที่คิดว่าอยากตายอย่างสงบ ก่อนตายควรมีสายสิญจน์ของหลวงพ่อผูกข้อมือไว้ก็ขอมาได้ ผู้เขียนจะตัดแบ่งให้ พอผูกข้อมือ ขอมาเพื่อพ่อ แม่ ได้ แต่ถ้าหมดก็อดกัน ไม่ว่ากัน เขียนจดหมายจ่าหน้าซองขอมาก็แล้วกัน สายสิญจน์ม้วนนี้ได้เข้าพิธีเสกพร้อมผ้าคลุมไหล่ (ทำจากผ้าไหม) 108 องค์ 5 ครั้ง เข้าพิธีเสก 9 องค์ อีกหลายสิบครั้ง เพิ่งคิดแจก ขอมาได้ที่เก่า เวลาเดิม เบอร์โทรศัพท์ของผมไม่มี เผลอให้เขาไปแล้ว ขอจบแต่เพียงนี้

ปล. อีกครั้ง กราบขอโทษ คุณบรรพต แจ้งสมบูรณ์ ด้วย ถ้า ผู้เขียนพูดจาล่วงเกินไป ขอโทษจากใจ

ในวันที่ 5 เมษายน 2562 ผู้เขียนได้สร้างเหรียญหนุมานย้อนยุค เข้าพิธีเสกที่วัดเพื่อสมทบทุนมูลนิธิและแจกผ้าป่า ปี 2563-64 สร้างได้ยิ่งใหญ่ และสวยงามมาก คือตั้งแต่สร้างวัตถุมงคลในนามของหลวงพ่อ เหรียญหนุมานย้อนยุครุ่น “มนต์พระกาฬ 62” รุ่นนี้สร้างได้ยิ่งใหญ่มาก (รุ่นต่อมาคือกริ่ง “จินดามณี ชินบัญชร มนต์พระกาฬ 63” กริ่งรุ่นนี้สร้างได้ดีมากอีกเช่นกัน) จะขอเล่าเพื่อบันทึกไว้ดังนี้

ที่มา: เฒ่า สุพรรณ
(อ.สมจิตต์ เทียนจันทร์)
56 หมู่ 5 บ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ
อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 72120
โทร. 081-943-7368