ตำราในโพรงไม้ ในวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๗ ได้มาจำพรรษาที่วัดหนองแขม ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท อีก ๑ พรรษา ได้เรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับโยมป่วนบ้านหนองแขมและเรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับหมอใยบ้านบางน้ำพระในขณะที่พักจำพรรษาที่วัดหนองแขมได้มีเพื่อนภิกษุชื่อ แจ่ม ได้เดินทางท่องเที่ยวไปพบตำราเป็นสมุดข่อยอยู่ในโพรงไม้แต่เอามาไม่ได้ เพราะตำรานั้นมีอาถรรพ์แรงมาก คล้ายมีเทพและเทวดารักษาจึงได้มาชักชวนพระกวยให้ไปดูปรากฏว่ามีตำราอยู่โพรงไม้จริง มีรอยคนเอาพวงมาลัยดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาใต้โคนไม้
พระภิกษุกวยจึงได้จุดธูปบอกเล่าและอธิษฐานว่า ”ถ้าจะให้ข้าพเจ้าเอาตำรานี้ไปเก็บรักษาไว้ขอธูปที่จุดนี้ให้ไหม้ให้หมดดอก” แต่ปรากฏว่าธูปได้ไหม้ไม่หมดพระภิกษุกวยจึงได้เสี่ยงสัตย์ อธิษฐานขึ้นมาใหม่ว่า “ถ้าหากว่าท่านจะให้ตำรานี้ให้ข้าพเจ้าเอาไปเก็บรักษาไว้ข้าพเจ้าจะนำเอาตำรานี้ไปทำประโยชน์แก่วัดและช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น”แล้วก็จุดธูปขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายปรากฏว่าธูปได้ไหม้หมดทั้ง ๓ ดอก หลวงพ่อจึงได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของตำราและอัญเชิญเอาตำรานั้นมาเก็บไว้
เกี่ยวกับตำรานี้มีคำร่ำลือกันว่า ก่อนหน้านั้นมีคนๆหนึ่งได้นำตำราชุดนี้มาเก็บไว้ในบ้านได้เกิดเหตุวิบัติเจ็บไข้ล้มตายจึงเอาตำราชุดนี้มาทิ้งไว้ที่ดังกล่าว พระภิกษุกวยเมื่อได้ข่าวดังนั้นก็มาเปิดตำราดูก็ปรากฏว่ามีลายลักษณ์อักษรบอกไว้ในตำราว่า ตำรานี้ห้ามเอาไปไว้บ้านใครๆทั้งสิ้นมิฉะนั้นจะฉิบหาย ท่านจึงได้ศึกษาตำรายันต์และคาถาจากตำราเล่มนี้ ปัจจุบันตำราเล่มนี้ยังอยู่ที่วัดหน้าปกเขียนว่า “ครูแรง” ด้วยสีแดง
นับว่าหลวงพ่อกวยท่านเป็นพระที่ได้ตำราเเบบเเปลกกว่าพระอื่นๆทั่วไป ส่วนพระภิกษุเเจ่มที่เป็นคนพาหลวงพ่อไปเอาตำรานี้ภายหลังได้สึกเเละผันชีวิตไปเป็นอ้ายเสือ เรื่องตำรายันต์ที่หลวงพ่อคัดลอกและเรียนมานี้ปัจจุบันบางส่วนยังอยู่ที่วัด บางส่วนอยู่ที่ศิษย์หลวงพ่อหลายๆท่านเช่นที่อาจารย์เหวียน มณีนัยบ้านท่าทอง ต.ปากน้ำ อ.เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี อยู่ที่วัดท่าทองอยู่ที่อาจารย์โอภาส(มรณภาพเเล้ว) วัดซับลำใย จ.ลพบุรี อยู่ที่อาจารย์แสวง(มรณภาพเเล้ว) วัดหนอง อีดุก อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ตำราเก่าสมุดบันทึกตลอดจนของเก่าๆที่หลวงพ่อเก็บไว้บางอย่างท่านจะห่อปกด้วยกระดาษเเละมักจะเขียนว่าห้ามทำสกปรก จะจับถือให้เบามือเเสดงว่าหลวงพ่อท่านเป็นคนรักของเเละมีระเบียบ หลวงพ่อไม่หวงของเเต่ไม่ชอบให้ทิ้งขว้าง ตำรายาเเละเลขยันต์ต่างๆที่ท่านได้จดบันทึกไว้ บางเล่มท่านจะเขียนหน้าปกไว้ว่า ห้ามหยิบ ห้ามจับ ครูเเรง บางเล่มจะเขียนสั่งว่า เปิดดูจุกตาย เป็นต้น
บทความที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานที่เล่าสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นและมีบันทึกไว้ นำมาเผยแพร่เพื่อบารมีของครูบาอาจารย์เป็นวิทยาทานแก่ทุกๆท่าน สาธุ สาธุ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ที่มา : ตำนานเกจิสยาม (นักเลงโบราณ)